โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ให้จำเลยคืนเครื่องสูบน้ำหรือใช้ราคาทรัพย์ จำนวน 7,500 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (1) (12) วรรคสอง จำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี ส่วนคำขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหายนั้น เนื่องจากผู้เสียหายได้รับชดใช้ค่าเสียหายจากจำเลยจนเป็นที่พอใจแล้ว จึงยกคำขอในส่วนนี้
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (1) (12) วรรคสองและวรรคสาม นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยลักเครื่องสูบน้ำของผู้เสียหายซึ่งเป็นเครื่องมือที่ผู้เสียหายใช้ในการประกอบอาชีพทำนา ในเวลากลางคืน นับว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้เสียหายซึ่งประกอบอาชีพทำนาและกระทบต่อความสงบสุขของสังคม พฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายแรง แม้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายจนไม่ติดใจเอาความแก่จำเลย และจำเลยมีภาระต้องเลี้ยงดูครอบครัว ก็ยังไม่มีเหตุเพียงพอที่จะรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลย ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 ไม่รอการลงโทษจำคุกแก่จำเลยนั้นเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข
อนึ่ง คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักเครื่องสูบน้ำซึ่งเป็นเครื่องมืออันมีไว้สำหรับประกอบกสิกรรมของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้มีอาชีพกสิกรรมทำนาไปโดยทุจริต โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าเครื่องสูบน้ำเป็นเครื่องกลหรือเครื่องจักรตามที่ระบุไว้ในมาตรา 335 วรรคสาม ดังนั้น ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 ปรับบทลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (1) (12) วรรคสองและวรรคสาม จึงไม่ถูกต้อง ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้คู่ความมิได้ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น