โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 โดยกรรมการผู้จัดการได้ขอทำสัญญาขายลดเช็คกับโจทก์ จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 เป็นผู้ค้ำประกัน หลังจากนั้นจำเลยได้ขายลดเช็คให้แก่โจทก์หลายครั้ง ปรากฏว่าครั้งหลังสุดเรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้ จึงขอให้จำเลยทั้งหกร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 5 และที่ 6 ให้การต่อสู้คดหลายประการ และจำเลยที่ 6 ต่อสู้ด้วยว่า เช็คที่โจทก์ฟ้องเป็นเช็คไม่สมบูรณ์เพราะตราที่ประทับในเช็คเป็นตราที่จำเลยที่ 1 จดทะเบียนยกเลิกแล้ว จึงไม่ผูกพันจำเลยที่ 1 และผู้ค้ำประกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งหกร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยที่ 5 และที่ 6 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 6 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า เมื่อฟังว่าเช็คพิพาทเป็นของจำเลยที่ 1 โดยลายมือชื่อที่ลงในช่องผู้สั่งจ่ายเป็นผู้แทนของจำเลยที่ 1และจำเลยที่ 1 ได้ขายลดเช็คดังกล่าวให้แก่โจทก์ แม้ตราสำคัญที่ประทับในเช็คจะเป็นตราที่จดทะเบียนยกเลิกแล้ว ก็หามีผลทำให้จำเลยที่ 1 หลุดพ้นจากหนี้ตามสัญญาขายลดเช็คนั้นไม่ จำเลยที่ 6 เป็นผู้ค้ำประกันหนี้ดังกล่าวจึงต้องรับผิดด้วย
พิพากษายืน