ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยว่าคดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้องศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง คงวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายผู้มีอำนาจฟ้อง พิพากษายืน โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ที่โจทก์ฎีกาว่า คดีโจทก์ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง เพราะเป็นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ว่าคดีไม่มีมูลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 170 เห็นว่าแม้มาตรา 170 จะบัญญัติว่า คำสั่งที่ว่าคดีไม่มีมูลนั้น โจทก์มีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาได้ตามบทบัญญัติว่าด้วยลักษณะอุทธรณ์ฎีกาก็ตาม แต่คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยอาศัยมาตรา 167 ด้วย คดีโจทก์จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ข้อเท็จจริงตามมาตรา 193 ทวิ โดยตรง และที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยมีเจตนาทำให้ทรัพย์ของโจทก์เสียหาย เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายเห็นว่า ปัญหาที่ว่าจำเลยมีเจตนาทำให้ทรัพย์ของโจทก์เสียหายหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริงศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชอบแล้ว เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติได้ว่า จำเลยไม่มีเจตนาทำให้ทรัพย์ของโจทก์เสียหายแล้ว ฎีกาของโจทก์ที่ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายผู้มีอำนาจฟ้อง จึงไม่มีความจำเป็นต้องวินิจฉัย เพราะไม่ทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลงไป"
พิพากษายืน