เดิมศาลจังหวัดลำปางมีคำสั่งตั้งพระยาประเสริฐฯในฐานะปลัดมณฑลกับนางลำเจียกเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กชายบุญส่งจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ ต่อมาพระยาประเสริฐฯ พระยาประชากรและนางลำเจียกยื่น คำร้องว่าพระยาประเสริฐฯ ถูกย้ายไปจังหวัดชัยนาทขอให้ศาลตั้งคณะกรมการจังหวัดเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กชายบุญส่งร่วมกับนางลำเจียกต่อไป
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เรื่องนี้ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าคณะกรมการจังหวัดเป็นนิติบุคคลหรือไม่ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยระเบียบราชการบริหารแห่งราชอาณาจักรสยาม ม.๑๘ ซึ่งบัญญัติอำนาจและหน้าที่ของคณะกรมการจังหวัดนั้น เพ่งเล็งถึงการบริหารราชการแผ่นดินทั่วไปไม่หมายถึงจัดการทรัพย์หรือกิจการของผู้หนึ่งผู้ใด ฉะนั้นการเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กจึงเป็นการแซกแซงในกิจการส่วนตัว เป็นการนอกหน้าที่ ถ้าหากจะถือว่าคณะกรมการจังหวัดเป็นผู้แทนได้ ก็จะทำให้คณะกรมการจังหวัดมีหน้าที่ต่อผู้เยาว์เมื่อบรรลุนิติภาวะแล้ว เช่นการทำรายงานกิจการที่ได้กระทำไป กิจการเช่นนี้ย่อมไม่ถูกต้องกับหน้าที่ของคณะกรมการจังหวัดในทางบริหาร จึงให้ยกคำร้องของผู้ร้องยืนตามศาลล่าง