โจทก์หาว่าจำเลยเสพสุรามืนเมาครองสติไม่ได้ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานผู้ทำการตามหน้าที่และแทงพลทหาร ส. เป็นบาดแผลสาหัสโดยได้รับทุกขเวทนา-กล้าและไม่สามารถประกอบหาเลี้ยงชีพโดยปกติเกินกว่า ๒๐ วัน ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษ จำเลยให้การปฏิเสธรับข้อต้องโทษ ได้ความจากคำเบิกความของแพทย์ประกอบใบชัณสูตรบาดแผลว่า พลทหาร ส.มีบาดแผลถูกของแหลม ๑ แห่งที่สีข้างยาว ๑ ซ.ม. กว้าง ๓ ซ.ม. ลึกเข้าช่องท้องถูกตับและกระบังลม ได้ทำการผ่าตัดที่หน้าท้อง ต้องนอนอยู่กับเตียงในโรงพยาบาล ๒๒ วันและทุเลาการใช้กำลังอีกราว ๒๐ วัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดมาตรา ๑๒๐ ซึ่งเป็นบทหนักโดยฟังว่าบาดแผลพลทหาร ส. ไม่ถึงสาหัส จำคุก ๑ ปีเพิ่มโทษตามมาตรา ๗๒ คงจำคุก ๑ ปี ๔ เดือน
ศาลอาญากลางเห็นว่า บาดแผลพลทหาร ส. ถึงสาหัสตามมาตรา ๒๕๖(๘) จำเลยมีผิดตามมาตรา ๒๕๗ ให้จำคุก ๓ ปี เพิ่มโทษตามมาตรา ๗๒ คงจำคุก ๔ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่พลทหาร ส.ถูกทำร้ายมีบาดแผลถึงกับต้องทำการผ่าตัด และต้องนอนตลอดจนต้องทุเลาการใช้กำลังมีกำหนดเวลาดังกล่าว ไปรับราชการตามปกติไม่ได้ ย่อมถือว่าไม่สามารถจะประกอบการหาเลี้ยงชีพได้โดยปกติ เพราะความทุพพลภาพหรือพยาธินั้นเกินกว่า ๒๐ วัน เป็นบาดแผลสาหัสตามกฎหมายที่ไม่สามารถไปรับราชการ เช่นนั้นจะได้รับเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงหรือไม่ ไม่สำคัญ
พิพากษายืน