โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสิบห้าตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 9, 18 พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 4 ทวิ, 5, 6, 10, 12, 15 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91 ริบของกลาง และให้จำเลยทั้งสิบห้าจ่ายเงินสินบนนำจับตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสิบห้าให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสิบห้ามีความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 9 (2) (ที่ถูก 9 วรรคหนึ่ง (2)), 18 พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 4 ทวิ, 12 (1) (2) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยทั้งสิบห้าเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันเล่นการพนันแข่งขันฟุตบอลต่างประเทศ เป็นเจ้ามือหรือผู้จัด จำคุกคนละ 2 เดือน ฐานร่วมกันเล่นการพนันไพ่ป๊อกแปดเก้า เป็นเจ้ามือหรือผู้จัด จำคุกคนละ 4 เดือน ฐานร่วมกันเล่นการพนันสลากกินรวบ เป็นเจ้ามือ จำคุกคนละ 4 เดือน ฐานร่วมกันเล่นการพนันบาการา เป็นเจ้ามือ จำคุกคนละ 4 เดือน ฐานร่วมกันเล่นการพนันสล๊อทแมชีน เป็นเจ้ามือ จำคุกคนละ 4 เดือน ฐานร่วมกันเล่นการพนันไพ่ต่าง ๆ เป็นเจ้ามือ จำคุกคนละ 4 เดือน และฐานร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดห้ามชุมนุมหรือมั่วสุม จำคุกคนละ 6 เดือน รวมจำคุกคนละ 28 เดือน จำเลยทั้งสิบห้าให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 14 เดือน ริบของกลาง คำขออื่นให้ยก
จำเลยทั้งสิบห้าอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสิบห้ามีความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันทายผลฟุตบอล กับฐานร่วมกันเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันไพ่ป๊อกแปดเก้า รวม 4 กรรม และให้ลงโทษฐานร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดห้ามชุมนุมหรือมั่วสุม จำคุกจำเลยทั้งสิบห้าคนละ 1 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 15 วัน เมื่อรวมกับโทษฐานอื่นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วเป็นจำคุกจำเลยทั้งสิบห้าคนละ 11 เดือน 15 วัน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสิบห้าฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 9 และที่ 11 ถึงที่ 15 ฎีกาว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 9 และที่ 11 ถึงที่ 15 เป็นเพียงบุคคลที่รับจ้างทำงานไม่ได้เป็นเจ้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์ ทั้งกลุ่มของจำเลยเพียงแต่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุจึงไม่เป็นการมั่วสุมกัน กับที่จำเลยที่ 10 ฎีกาว่า จำเลยที่ 10 รู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่มีเจตนากระทำความผิดนั้น เป็นฎีกาในทำนองปฏิเสธว่าจำเลยทั้งสิบห้าไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้อง ขัดกับที่จำเลยทั้งสิบห้าให้การรับสารภาพ และเป็นข้อเท็จจริงที่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 9 และที่ 11 ถึงที่ 15 เพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ ส่วนจำเลยที่ 10 เพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา ฎีกาดังกล่าวจึงเป็นข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลล่าง ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 และ 252 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 ไม่อาจอนุญาตให้ฎีกาได้ ที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาข้อนี้มาจึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย ส่วนที่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 9 และที่ 11 ถึงที่ 15 ฎีกาต่อไปว่า ขอให้มีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจจำเลยที่ 1 ถึงที่ 9 และที่ 11 ถึงที่ 15 นั้น เห็นว่า ในคดีอาญาเมื่อศาลเห็นสมควรจะสั่งให้พนักงานคุมประพฤติทำการสืบเสาะและพินิจจำเลยหรือไม่ก็ได้ อันเป็นดุลพินิจของศาล ไม่มีกฎหมายบังคับว่าศาลต้องสืบเสาะและพินิจจำเลยทุกเรื่องไป เมื่อศาลเห็นว่าคดีนี้มีข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะใช้ดุลพินิจกำหนดโทษจำเลยทั้งสิบห้าได้ จึงไม่จำต้องสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจจำเลยทั้งสิบห้า ฎีกาของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 9 และที่ 11 ถึงที่ 15 ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
มีปัญหาข้อเท็จจริงต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสิบห้าประการสุดท้ายว่า มีเหตุลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยทั้งสิบห้าหรือไม่ เห็นว่า จำเลยทั้งสิบห้าเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และจัดให้มีการเล่นการพนันหลายประเภทแบบออนไลน์ทางอินเทอร์เน็ต โดยเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยทั้งสิบห้าได้พร้อมคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 13 ชุด และเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา 1 เครื่อง พฤติการณ์แสดงว่าจำเลยทั้งสิบห้าเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และจัดให้มีการเล่นพนันแบบออนไลน์ทางอินเทอร์เน็ตรายใหญ่และมีการกระทำเป็นอาชีพ ลักษณะของการกระทำความผิดเป็นการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม เนื่องจากเป็นการง่ายที่ประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา จะเข้าไปเล่นการพนันในช่องทางดังกล่าว การกระทำของจำเลยทั้งสิบห้าจึงมีส่วนสำคัญในการมอมเมาเยาวชนให้ลุ่มหลงในอบายมุขอย่างกว้างขวาง สร้างความเสียหายในทางเศรษฐกิจและก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสงบสุขของสังคม นอกจากนี้ยังเป็นบ่อเกิดอาชญากรรมร้ายแรงอื่นตามมาอีกมากมาย พฤติการณ์แห่งคดีนับว่าเป็นเรื่องร้ายแรง ที่จำเลยทั้งสิบห้าอ้างว่าไม่เคยกระทำความผิดมาก่อนรวมทั้งอ้างเหตุผลหรือความจำเป็นในการกระทำความผิด ตลอดจนสามารถแก้ไขปรับปรุงตัว หลังเกิดเหตุมีความประพฤติไม่เสียหาย ก็ไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะรับฟังเพื่อรอการลงโทษจำคุกแก่จำเลยทั้งสิบห้า การใช้ดุลพินิจกำหนดโทษโดยไม่รอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยทั้งสิบห้าของศาลอุทธรณ์ภาค 2 จึงเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข แต่ที่ขอให้ลงโทษสถานเบานั้น เห็นว่าโทษที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 กำหนดมานั้นหนักเกินไป เห็นควรแก้ไขให้เหมาะสมแก่รูปคดี ฎีกาของจำเลยทั้งสิบห้าข้อนี้ฟังขึ้นบางส่วน
อนึ่ง ความผิดฐานร่วมกันเล่นการพนันและฐานร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จำเลยทั้งสิบห้ามีเจตนาร่วมเล่นการพนันและฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามพระราชกำหนดในการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเวลาเดียวกัน อันเป็นเจตนาเดียวกัน การกระทำความผิดของจำเลยทั้งสิบห้าจึงเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท มิใช่หลายกรรมต่างกัน ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยทั้งสิบห้าเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันจึงเป็นการไม่ชอบ แต่การที่จำเลยทั้งสิบห้าร่วมกันชุมนุมและมั่วสุมเล่นการพนันออนไลน์ในแต่ละประเภทตามฟ้องข้อ 1.1 ถึงข้อ 1.6 แม้จะเป็นวันเดียวกันก็มีเจตนาในการฝ่าฝืนข้อกำหนดห้ามชุมนุมและมั่วสุมในการเล่นการพนันออนไลน์ในแต่ละประเภทแยกออกจากกันด้วย จึงเป็นการกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินหลายกรรมต่างกันตามประเภทของการเล่นการพนันดังกล่าว จึงต้องลงโทษฐานร่วมกันเล่นการพนันสลากกินรวบโดยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ซึ่งเป็นบทหนักในฟ้องข้อ 1.3 กระทงหนึ่ง และฐานร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดห้ามชุมนุมและมั่วสุมซึ่งเป็นบทหนักในฟ้องข้อ 1.1 ข้อ 1.2 และข้อ 1.4 ถึงข้อ 1.6 อีก 5 กระทง ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นอ้างและแก้ไขให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง และมาตรา 225 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษฐานร่วมกันเล่นการพนันสลากกินรวบโดยเป็นเจ้ามือรับกินใช้กระทงหนึ่ง และฐานร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดห้ามชุมนุมและมั่วสุมที่ออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินอีก 5 กระทงจำคุกกระทงละ 1 เดือน รวม 6 กระทง ลดโทษกระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงจำคุกคนละ 3 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2