คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2523

จำเลยเคยถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 500บาท โทษจำคุกให้รอไว้ 1 ปี ภายในระยะเวลาที่ศาลรอการลงโทษไว้นั้น จำเลยกระทำผิดคดีนี้อีก ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 1,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 1 ปี การที่ศาลกำหนดโทษจำคุกแต่ให้รอการลงโทษไว้ในคดีก่อน ก็เท่ากับว่าจำเลยยังมิได้รับโทษจำคุกมาก่อน ศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจรอการลงโทษในคดีนี้ได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 การบวกโทษที่รอไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีหลังตามมาตรา 58 ใช้เฉพาะกรณีที่ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกในคดีหลังเท่านั้น หาใช่เป็นบทบังคับว่า ถ้าจำเลยทำความผิดขึ้นอีกภายในเวลาที่ศาลรอการลงโทษ จะต้องลงโทษจำคุกในคดีหลังเสมอไปเพื่อบวกโทษที่รอไว้ดังฎีกาของโจทก์

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกล่าวคำหมิ่นประมาทใส่ความนางสาววิไลและจำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดฐานหมิ่นประมาทให้จำคุก 1 เดือน ปรับ 500 บาทโทษจำคุกรอไว้ 1 ปี ตามคดีหมายเลขแดงที่ 1745/2521 ของศาลชั้นต้น ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 58 และบวกโทษคดีนี้กับคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1745/2521

จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าเคยต้องโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1745/2521 ของศาลชั้นต้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 จำคุก 6 เดือน ปรับ 2,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 1,000บาท โทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 1 ปี ตามมาตรา 56 เมื่อรอการลงโทษคดีนี้จึงนำโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1745/2521 ของศาลชั้นต้นมาบวกไม่ได้

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาว่า ที่ศาลรอการลงโทษคดีนี้ซ้ำอีกเป็นการไม่ชอบเพราะกฎหมายบังคับให้เอาโทษที่รอไว้ในคดีก่อนมาบวก

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ศาลกำหนดโทษจำคุก แต่ให้รอการลงโทษไว้ในคดีแรก ก็เท่ากับจำเลยยังมิได้รับโทษจำคุกมาก่อน ศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจรอการลงโทษในคดีนี้ได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56การบวกโทษที่รอไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีหลังตามมาตรา 58 ใช้เฉพาะกรณีที่ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกในคดีหลังเท่านั้นหาใช่เป็นบทบังคับว่าถ้าจำเลยทำความผิดขึ้นอีกภายในเวลาที่ศาลรอการลงโทษ จะต้องลงโทษจำคุกในคดีหลังเสมอไปเพื่อบวกกับโทษที่รอไว้ดังที่โจทก์เข้าใจไม่

พิพากษายืน