โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย 1,800,864.36 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 1,574,519.36 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาจึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง และบังคับให้โจทก์ชำระเงินค่าปรับ 7,728,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องแย้งเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่จำเลย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์มิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญา ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 524,519.36 พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2537 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก และให้ยกฟ้องแย้งของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยฎีกาว่าเงินค่าจ้างงานเพิ่มเติม 524,519.36 บาท โจทก์ได้โอนสิทธิการรับเงินดังกล่าวไปยังบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟแนนซ์ จำกัดแล้ว ตามเอกสารหมาย ล.1 และบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟแนนซ์ จำกัด ไม่ได้มีหนังสือแจ้งยกเลิกการโอนสิทธิเรียกร้องการชำระเงินไปยังจำเลยจำเลยจึงไม่มีหน้าที่ต้องชำระเงินค่าจ้างงานเพิ่มเติมให้แก่โจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น...โจทก์กับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟแนนซ์ จำกัด ตกลงกันให้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟแนนซ์ จำกัด รับเงินจากจำเลยเพื่อนำมาชำระหนี้ที่โจทก์มีอยู่ต่อบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟแนนซ์ จำกัด ก่อน เงินส่วนที่เหลือจากการหักชำระหนี้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟแนนซ์ จำกัด ต้องคืนให้โจทก์ หรืออีกนัยหนึ่งเงินส่วนที่เหลือยังเป็นของโจทก์อยู่ ทั้งตามใบเสร็จรับเงินค่าจ้างที่จำเลยจ่ายไปทุกงวดโจทก์ก็เป็นผู้ออกใบเสร็จรับเงินให้แก่จำเลย ตามพฤติการณ์ดังกล่าว แม้หนังสือเอกสารหมาย ล.1 จะใช้ข้อความว่าโจทก์โอนสิทธิรับเงินค่าจ้างให้แก่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟแนนซ์ จำกัด แต่ตามเจตนาของคู่กรณีดังที่กล่าวมาแล้วหาใช่เป็นการโอนสิทธิเรียกร้องกันไม่โดยเป็นเพียงโจทก์มอบอำนาจให้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟแนนซ์ จำกัด รับเงินแทนโจทก์เท่านั้น เมื่อฟังว่าเอกสารหมาย ล.1 ไม่ใช่หนังสือที่โจทก์ได้โอนสิทธิเรียกร้องในการรับเงินค่าจ้างให้แก่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟแนนซ์ จำกัด ก็ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยต่อไปว่า โจทก์ได้โอนสิทธิเรียกร้องเงินค่าจ้างงานเพิ่มเติมให้แก่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟแนนซ์ จำกัด ตามเอกสารหมาย ล.1 ด้วยหรือไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องและให้จำเลยชำระเงินค่าจ้างงานเพิ่มเติมให้แก่โจทก์นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง ศาลชั้นต้นยังมิได้สั่งค่าฤชาธรรมเนียมสำหรับฟ้องแย้ง ศาลฎีกาจึงสั่งให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมสำหรับฟ้องแย้งในศาลชั้นต้นและค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ