ได้ความว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้จำหน่ายสุราเร่ฉะเพาะในตำบลที่ระบุไว้แต่จำเลยได้นำสุราไปขายในตำบลอื่นผิดจากใบอนุญาต ปรากฎว่าทางราชการได้มีการงดไม่เก็บค่าใบอนุญาตจากผู้ขายสุราเร่แลได้เคยมีคำสั่งของ ภ.ผู้ช่วยเจ้าภาษีสุราสั่งนายตรวจสุราว่าไม่ควรเคร่งจับกุมผู้ขายสุราล่วงเขตต์ในสมัยเศรษฐกิจตกต่ำ
ศาลเดิมพิพากษาให้ปรับจำเลยตามพ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ.๑๒๔๘ ม.๒๖ เป็นเงิน ๓๒๐ บาทลดกึ่งหนึ่งตามกฎหมายอาชญามาตรา ๕๙ แลถ้าจะต้องจำแทนให้จำมีกำหนด ๕ วันตามมาตรา ๔๗ แห่ง พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเมื่อเจ้าพนักงานได้ผ่อนผันตามนโยบายของรัฐบาลรัฐพาณิชย์ในสมัยเศรษฐกิจตกต่ำแล้วนับว่าจำเลยทำไปโดยชื่อตามมาตรา ๖๐ แห่งพระราชบัญญัติภาษีชั้นในซึ่งห้ามไม่ให้ศาลลงโทษ จึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่าตามใบอนุญาตกำหนดเขตต์ที่ขายไว้ชัดเจน เมื่อจำเลยนำไปขายตำบลอื่นจึงเป็นผิดตาม ม.๒๖ แห่งพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมภาษีชั้นในพ.ศ.๒๔๗๖ แลการที่เจ้าพนักงานผ่อนผันการจับกุมผู้ขายสุราล่วงเขตต์นั้นจะถือเหมือนกับอนุญาตให้จำเลยขายสุราล่วงเขตต์ไม่ได้ แลข้อที่ศาลเดิมให้จำแทน ๕ วันถ้าไม่มีเงินเสียค่าปรับ ๑๖๐ บาทนั้นเห็นว่าไม่ผิดด้วยเกณฑ์ในมาตรา ๔๗ ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๒๒๕/๒๔๗๖ จึงพิพากษายืนตามศาลเดิม