ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ยึดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 288 วรรคสอง (2) เป็นที่สุด ผู้ร้องไม่มีสิทธิขอให้งดการขาย
ป.วิ.พ. มาตรา 288 วรรคสอง (2) บัญญัติว่า "...ถ้าปรากฏว่าทรัพย์สินที่ยึดนั้นเป็นสังหาริมทรัพย์ที่เก็บไว้นานไม่ได้ ศาลมีอำนาจที่จะมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สินเช่าว่านี้โดยไม่ชักช้า" คดีนี้โจทก์นำยึดข้าวเปลือกโดยอ้างว่าเป็นของจำเลย และยื่นคำร้องขอให้นำออกขายทอดตลาดเนื่องจากว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นข้าวเปลือกที่เก็บไว้นานอาจเกิดความเสียหายได้ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจำหน่ายทรัพย์ที่ยึดและนำเงินจำนวนดังกล่าวเก็บรักษาไว้ คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงเป็นคำสั่งตามมาตรา 288 วรรคสอง (2) ซึ่งมาตรา 288 วรรคสาม บัญญัติให้คำสั่งศาลเป็นที่สุด การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้งดการขายทอดตลาดข้าวเปลือก เท่ากับเป็นการขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งที่อนุญาตตามมาตรา 288 วรรคสอง (2) ซึ่งเป็นที่สุดแล้ว คำร้องดังกล่าวมิใช่คำร้องขอให้งดการบังคับคดีหรือคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างการพิจารณา ผู้ร้องจึงไม่อาจยื่นคำร้องได้ แม้ศาลชั้นต้นรับคำร้องไว้และศาลอุทธรณ์ภาค 6 วินิจฉัยให้ก็เป็นการไม่ชอบ ถือว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ภาค 6 ไม่เป็นเหตุให้ผู้ร้องฎีกาต่อไปได้ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาของผู้ร้องมาเป็นการไม่ชอบศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย