โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ ๒๕ ถึงวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๐๒ เวลากลางวันและกลางคืน จำเลยเป็นเจ้ามือจัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวบ รับกินรับใช้ ขอให้ลงโทษ
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยทำผิดจริงตามฟ้อง พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๔,๕,๑๐,๑๒ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๔๘๕ มาตรา ๔ ให้จำคุกจำเลย ๑ เดือน และปรับ ๑,๐๐๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ ริบของกลางและให้จำเลยชำระค่าสินบนนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับตามพระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๓
จำเลยอุทธรณ์ว่าฟ้องเคลือบคลุม และข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง ขอให้ยกฟ้องหรือขอให้ลดโทษเพราะจำเลยรับชั้นสอบสวน
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ฟ้องไม่เคลือบคลุม และข้อเท็จจริงไม่ต่างกับฟ้องแต่คำรับชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา พิพากษาแก้ว่า ลดโทษจำคุกลง ๘ วัน ลดโทษปรับลง ๒๕๐ บาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๗๘ คงให้จำคุกจำเลยไว้ ๒๒ วัน และปรับ ๗๕๐ บาท
จำเลยฎีกาข้อกฎหมายว่า ฟ้องเคลือบคลุม และข้อเท็จจริงต่อกับฟ้อง ๒๘ มกราคม ๒๕๐๒ เวลากลางวันและกลางคืน จำเลยย่อมเข้าใจวันเวลาที่โจทก์กล่าวหาได้ดี โดยมิได้หลงข้อต่อสู้เพราะมิได้ให้การต่อสู้ว่าฟ้องเคลือบคลุม และได้สืบพยานต่อสู้คดีโจทก์ไว้แล้ว ระยะเวลาที่โจทก์กล่าวในฟ้องก็เพียง ๔ วัน และวันที่สายลับไปซื้อสลากจากจำเลยก็เป็น ๑ ใน ๔ วันที่โจทก์ฟ้องนั้นเอง แม้จะไปซื้อตอนเข้าก็ถือว่าเป็นเวลากลางวันตามฟ้อง มิใช่เป็นฟ้องเคลือบคลุม หรือเป็นกรณีที่ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง ศาลฎีกาพิพากษายืน