โจทก์ ฟ้อง ขอ ให้ ลงโทษ จำเลย ทั้ง สอง ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา147, 157, 83
จำเลย ทั้ง สอง ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย ทั้ง สอง มี ความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 จำคุก คน ละ 5 ปี
จำเลย ทั้ง สอง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา แก้ เป็น ว่า ลดโทษ ให้ จำเลย คง จำคุก คน ละ 3 ปี
จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า คดี นี้ ต้องห้าม มิให้ ฎีกา ใน ปัญหาข้อเท็จจริง คง มี ปัญหา ข้อกฎหมาย ที่ จะ ต้อง วินิจฉัย คือ จำเลยทั้ง สอง เป็น เจ้าพนักงาน หรือ ไม่ และ คดี ขาดอายุความ หรือ ไม่ใน การ วินิจฉัย ปัญหา ข้อกฎหมาย ดังกล่าว ศาลฎีกา จะ ต้อง ฟังข้อเท็จจริง ตาม ที่ ศาลอุทธรณ์ ได้ วินิจฉัย มา แล้ว จาก พยานหลักฐานใน สำนวน ซึ่ง ศาลอุทธรณ์ ฟัง ข้อเท็จจริง ว่า โรงเรียน ผู้ใหญ่วิสุทธิกษัตรี อยู่ ใน สังกัด กรมการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ โดย ใช้ โรงเรียน วิสุทธิกษัตรี ของ กรมสามัญศึกษา เป็นสถานที่ ตั้ง จำเลย ทั้ง สอง รับ ราชการ เป็น ครู โรงเรียนวิสุทธิกษัตรี ทำ หน้าที่ ธุรการ และ การเงิน และ ยัง ได้ รับ แต่งตั้งให้ ทำ หน้าที่ ทาง ธุรการ และ การเงิน ของ โรงเรียน ผู้ใหญ่วิสุทธิกษัตรี ด้วย โดย ทำ หน้าที่ เก็บเงิน และ ออก ใบเสร็จ รับเงินให้ แก่ ผู้สมัคร เข้า ศึกษา เกี่ยวกับ เรื่อง การเงิน นี้ จำเลยทั้ง สอง ต้อง ปฏิบัติ ตาม ระเบียบ ว่าด้วย การเงิน ของ กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวคือ เมื่อ ได้ รับ เงิน ค่า ใบสมัคร ค่า สมัครเข้าเรียน และ เงินบำรุง การศึกษา จาก ผู้สมัคร แล้ว จะ ต้อง ออก ใบเสร็จ รับเงิน ให้ แก่ นักศึกษา แล้ว นำ ใบเสร็จ รับเงิน ไป ลง บัญชี เงินสดและ นำ เงิน ส่ง ให้ แก่ ประธาน กรรมการ เก็บ รักษา เงิน ของ โรงเรียนแต่ จำเลย ทั้ง สอง ไม่ ออก ใบเสร็จรับเงิน ให้ แก่ ผู้สมัคร เข้า ศึกษาที่ ได้ ชำระ เงิน ให้ แก่ จำเลย ทั้ง สอง ไม่ นำ ใบเสร็จรับเงิน ไปลง บัญชี เงินสด ทั้ง ไม่ นำ เงิน ส่ง ตาม ระเบียบ เมื่อ กรรมการตรวจเงิน ตรวจ พบ จำเลย ทั้ง สอง จึง นำ เงิน มา ชดใช้ คืน ให้ ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลย ทั้ง สอง เป็น ข้าราชการครู แม้ จำเลย ทั้ง สอง จะ เป็นครู ใน โรงเรียน วิสุทธิกษัตรี สังกัด กรมสามัญศึกษา ไม่ ได้ สังกัดกรมการศึกษานอกโรงเรียน แต่ จำเลย ทั้ง สอง ก็ ได้ รับ แต่งตั้ง ให้ทำ หน้าที่ ทาง ธุรการ และ การเงิน ของ โรงเรียน ผู้ใหญ่ วิสุทธิกษัตรีสังกัด กรมการศึกษานอกโรงเรียน ซึ่ง เป็น หน่วยราชการ ด้วยกัน ย่อมถือ ได้ ว่า เป็น เจ้าพนักงาน และ ได้ ปฏิบัติ ราชการ ตาม ที่ ได้รับ มอบหมาย เมื่อ จำเลย ทั้ง สอง มี เจตนา ทุจริต เบียดบัง เอา เงินที่ ได้ รับ ไว้ ตาม หน้าที่ ไม่ จัดการ นำ ส่ง ประธาน กรรมการ เก็บรักษา เงิน ตาม ระเบียบ จึง เป็น ความผิด ฐาน เป็น เจ้าพนักงาน เบียดบังทรัพย์ โดย ทุจริต อัน เป็น ความผิด ต่อ ตำแหน่ง หน้าที่ ราชการ ซึ่งความผิด ดังกล่าว ไม่ ใช่ ความผิด ต่อ ส่วนตัว แม้ จะ ร้องทุกข์ เกิน3 เดือน นับ แต่ วัน รู้เรื่อง ความผิด และ รู้ตัว ผู้ กระทำ ความผิดคดี ก็ หา ขาด อายุความ ไม่
พิพากษา ยืน.