ได้ความว่า เดิมโจทก์ได้ใบเหยียบย่ำสำหรับที่นี้และได้ให้ ผ.สามีนางแจ่มเช่าทำ ต่อมานางแจ่มให้เจ้าพนักงานรังวัดใส่ชื่อตนในโฉนด ภายหลังโจทก์ฟ้องขับไล่และเรียกค่าเช่า ระวางความนี้นางแจ่มเอาโฉนดนั้นไปจำนองไว้กับจำเลย ครั้นศาลตัดสินให้โจทก์ชนะ นางแจ่มกลับโอนโฉนดรายพิภาษนี้ขายให้แก่จำเลยโดยมีสินจ้างพอสมควร ฝ่ายโจทก์ไม่รู้เห็นยินยอมด้วย และตามทางพิจารณาปรากฎว่า เมื่อนางแจ่มเป็นความกับโจทก์ จำเลยก็ไปศาลด้วยและออกเงินให้นางแจ่มอุทธรณ์ดังนี้
ศาลเดิมเห็นว่า โจทก์เลินเล่อปล่อยให้นางแจ่มใส่ชื่อในโฉนดแลจำเลยรับโอนโดยสุจริต จำเลยได้ที่เป็นสิทธิ
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยรับโอนโดยไม่สุจริตและโฉนดออกให้นางแจ่มทับที่ของโจทก์ นางแจ่มไม่มีกรรมสิทธิ จำเลยไม่มีอำนาจดีไปกว่านางแจ่ม จึงตัดสินให้โอนโฉนดในชื่อโจทก์
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ เพราะศาลได้ตัดสินแล้วว่าโฉนดนางแจ่มทับที่โจทก์ นางแจ่มจึงไม่มีกรรมสิทธิ จำเลยผู้รับโอนจึงไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน