โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 91, 297, 371 ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 (ที่ถูก 297 (8)), 371 เป็นการกระทำหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส จำคุก 4 ปี ฐานพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ปรับ 100 บาท รวมจำคุก 4 ปี และปรับ 100 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี และปรับ 50 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "...จำเลยใช้อาวุธมีดพับปลายแหลมที่ติดตัวไปแทงบริเวณชายโครงด้านซ้าย ซึ่งเป็นอวัยวะส่วนสำคัญของผู้เสียหาย 1 ครั้ง คมมีดถูกไตได้รับบาดเจ็บ เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส ต้องใช้ระยะเวลารักษาบาดแผลประมาณ 60 วัน ตามผลการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ท้ายฟ้อง พฤติการณ์การกระทำความผิดของจำเลยนับว่าร้ายแรง แม้จำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อนและเสียหายไม่ติดใจเอาความแล้วก็ตาม ไม่เพียงพอที่จะถือเป็นเหตุปรานีเพื่อรอการลงโทษ ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น แต่ที่ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพินิจลงโทษจำคุกจำเลยก่อนลดโทษให้มีกำหนด 4 ปี หนักเกินไป สมควรแก้ไขให้เหมาะสมแก่สภาพความผิด ฎีกาของจำเลยฟังขึ้นบางส่วน
อนึ่ง ในความผิดฐานพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ ศาลล่างทั้งสองลงโทษปรับจำเลยเป็นเงิน 50 บาท แต่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 30 บัญญัติว่า ในการกักขังแทนค่าปรับให้ถืออัตรา 200 บาท ต่อหนึ่งวัน ฉะนั้น การบังคับค่าปรับจึงกักขังแทนค่าปรับไม่ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่า ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 นั้น เป็นการไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง"
พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส จำคุกจำเลย 2 ปี เมื่อรวมกับความผิดฐานพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ เป็นจำคุก 2 ปี ปรับ 100 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงจำคุก 1 ปี ปรับ 50 บาท หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 แต่ประการเดียว นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2