โจทก์ฟ้องว่า จำเลยปลูกสร้างอาคารพักอาศัยจำนวน ๑ หลัง ในที่ดินแนวเขตถนนโครงการผังเมือง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นและมิได้แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามแบบและวิธีการที่กำหนดไว้ ทั้งมิได้รับยกเว้นตามกฎหมายและยังฝ่าฝืนอยู่โดยไม่ปฏิบัติให้ถูกต้อง เจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ได้มีคำสั่งให้จำเลยรื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างขึ้นโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้แล้วเสร็จภายใน ๔๕ วัน นับแต่วันที่ได้รับคำสั่ง จำเลยไม่ปฏิบัติตาม ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๙ ,๑๐ , ๑๑ , ๒๑ , ๔๗ ทวิ , ๖๕ , ๖๖ ทวิ , ๖๗ , ๗๑
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๒๑ , ๖๕ วรรคหนึ่งและวรรคสอง , ๖๖ ทวิ วรรคหนึ่งและวรรคสอง พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจแล้ว เรียงกระทงลงโทษฐานก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ลงโทษตามมาตรา ๒๑ , ๖๕ วรรคหนึ่ง ปรับ ๔,๐๐๐ บาท และปรับตามมาตรา ๖๕ วรรคสอง วันละ ๔๐ บาท เป็นเวลา ๑,๔๖๐ วัน เป็นเงิน ๕๘,๔๐๐ บาท และปรับวันละ ๔๐ บาท นับแต่วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ อันเป็นวันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง และฐานฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่ให้รื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา ๖๖ ทวิ วรรคหนึ่ง ปรับ ๔,๐๐๐ บาท และปรับตามมาตรา ๖๖ ทวิ วรรคสอง วันละ ๔๐ บาท เป็นเวลา ๑,๒๖๐ วัน เป็นเงิน ๕๐,๔๐๐ บาท และปรับวันละ ๔๐ บาท นับแต่วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ อันเป็นวันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่น จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ ความผิดฐานก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตปรับ ๓๑,๒๐๐ บาท และปรับวันละ ๒๐ บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง ความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่ให้รื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ ๒๗,๒๐๐ บาท และปรับวันละ ๒๐ บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่น
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๙ พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๒๑ , ๔๒ , ๖๕ วรรคหนึ่งและวรรคสอง , ๖๖ ทวิ วรรคหนึ่งและวรรคสอง ลงโทษจำเลยฐานก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา ๖๕ วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา ๒๑ ปรับ ๒,๐๐๐ บาท และตามมาตรา ๖๕ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๑ ปรับวันละ ๒๐ บาท นับแต่วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๓๘ ถึงวันฟ้อง (๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๒) เป็นเวลา ๑,๔๓๕ วัน เป็นเงิน ๒๘,๗๐๐ บาท กับปรับอีกวันละ ๒๐ บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง ฐานฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่ให้รื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ลงโทษตามมาตรา ๖๖ ทวิ วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา ๔๒ ปรับ ๒,๐๐๐ บาท และลงโทษตามมาตรา ๖๖ ทวิ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๔๒ ปรับวันละ ๒๐ บาท นับแต่วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๓๙ ถึงวันฟ้อง (๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๒) เป็นเวลา ๑,๒๔๕ วัน เป็นเงิน ๒๔,๙๐๐ บาท กับปรับอีกวันละ ๒๐ บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง รวมเป็นเงินค่าปรับ ๕๗,๖๐๐ บาท และปรับอีกวันละ ๔๐ บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๗๘ คงปรับ ๒๘,๘๐๐ บาท และปรับอีกวันละ ๒๐ บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้อง (๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๒) เป็นต้นไปจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ , ๓๐ แต่ห้ามกักขังเกินกำหนด ๑ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๙ อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า... ในความผิดฐานก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา ๒๑ , ๖๕ วรรคสอง นั้น กำหนดให้ปรับเป็นรายวันตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง ซึ่งหมายความว่า จนกว่าจะได้รับใบอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือจนกว่าจำเลยจะดำเนินการแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น และดำเนินการตามมาตรา ๓๙ ทวิ เมื่อข้อเท็จจริงจากรายงานการสืบเสาะได้ความว่า จำเลยได้ยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคารต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นไปก่อนแล้ว แต่จำเลยได้ทำการก่อสร้างอาคารไปก่อนที่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น และต่อมาเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีหนังสือแจ้งจำเลยว่า สถานที่ก่อสร้างอาคารของจำเลยอยู่ในแนวถนนโครงการผังเมืองรวม สาย ก.๑๒ ซึ่งตามข้อกำหนดของผังเมืองรวม ไม่สามารถอนุญาตให้ก่อสร้างได้ ต่อมาได้มีคำสั่งให้จำเลยระงับการก่อสร้าง และวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๓๙ เจ้าพนักงานท้องถิ่นได้มีคำสั่งเป็นหนังสือให้จำเลยรื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างโดยไม่รับอนุญาตให้แล้วเสร็จภายใน ๔๕ วัน ครบกำหนดในวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๓๙ แต่จำเลยมิได้ปฏิบัติตาม เห็นว่า การฝ่าฝืนปลูกสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตก็ดี การไม่ดำเนินการขออนุญาตปลูกสร้างอาคารหรือดำเนินการตามมาตรา ๓๙ ทวิ ก็ดี ย่อมสิ้นสุดลงแล้ว เมื่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้มีคำสั่งให้จำเลยรื้อถอนอาคาร แล้วจำเลยไม่ปฏิบัติตาม การกระทำของจำเลยในส่วนนี้ย่อมเป็นความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่ให้รื้อถอนอาคารตามมาตรา ๔๒ , ๖๖ ทวิ วรรคหนึ่ง และวรรคสอง และไม่เป็นความผิดตามมาตรา ๒๑ , ๖๕ วรรคสองอีก ดังนั้น ค่าปรับรายวัน ตามมาตรา ๒๑ , ๖๕ วรรคสอง ของจำเลย จึงต้องนับแต่วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๓๘ ถึงวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๓๙ รวม ๑๘๘ วัน เท่านั้น ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๙ พิพากษาให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๖๕ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๑ ให้ปรับรายวันนับตั้งแต่วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๓๘ ไปจนกว่าจำเลยจะปฏิบัติให้ถูกต้องนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า เฉพาะโทษปรับรายวัน ตามมาตรา ๖๕ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๑ ให้ลงโทษปรับจำเลยวันละ ๔๐ บาท รวม ๑๘๘ วัน เป็นเงิน ๗,๕๒๐ บาท จำเลยสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงปรับเป็นเงิน ๓,๗๖๐ บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๙.
นายไพฤทธิ์ เศรษฐไกรกุล ผู้ช่วยฯ/ย่อสั้น
ร.ท.นิตินาถ บุญมา ย่อยาว
นายไพโรจน์ โรจน์อภิรักษ์กุล ตรวจ
นางอัปษร หิรัญบูรณะ ผู้ช่วยฯ/ตรวจ