โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา 276
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคแรก วางโทษจำคุก 6 ปี จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุมและสอบสวนและนำสืบเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุก 4 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "พิเคราะห์แล้ว คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้เสียหายมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับจำเลยและรู้จักกันประมาณ 2 ปี ก่อนเกิดเหตุโดยจำเลยเคยทำงานที่บ้านอาของผู้เสียหาย ในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 18 นาฬิกา จำเลยชักชวนผู้เสียหายไปห้องพักของจำเลยที่เกิดเหตุผู้เสียหายก็ยินยอมและได้ความจากคำเบิกความของผู้เสียหายว่าจำเลยกอดจูบและร่วมประเวณีกับผู้เสียหาย 3 ครั้ง นอกจากนี้จากการตรวจชันสูตรของแพทย์พบหลักฐานการร่วมประเวณีตามเอกสารหมาย จ.6 ที่จำเลยนำสืบต่อสู้ว่าไม่ได้ร่วมประเวณีกับผู้เสียหายเพียงแต่กอดจูบผู้เสียหายโดยขณะจำเลยจะร่วมเพศแต่ยังมิได้สอดใส่อวัยวะเพศของจำเลยเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหาย พี่สาวและพี่ชายผู้เสียหายมาพบเห็นเสียก่อนและไม่สามารถตกลงกันได้ไม่น่าเชื่อถือเพราะไม่มีเหตุผลใดที่ผู้เสียหายจะแกล้งกล่าวหาจำเลยด้วยเรื่องที่น่าอับอายและไม่เป็นความจริงรูปคดีฟังได้โดยปราศจากสงสัยว่าจำเลยร่วมประเวณีกับผู้เสียหายดังที่ผู้เสียหายเบิกความมีปัญหาต่อไปว่าจำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายหรือไม่เห็นว่าพฤติการณ์ที่ผู้เสียหายยินยอมตามจำเลยไปที่ห้องพักของจำเลย มีการพูดคุยกันในห้องสองต่อสองยินยอมให้จำเลยเล้าโลม กอดจูบและร่วมประเวณีถึง 3 ครั้ง น่าเชื่อว่าผู้เสียหายสมัครใจทุกครั้ง แต่ที่ผู้เสียหายเบิกความบ่ายเบี่ยงไปว่า เมื่อจำเลยกอดจูบและจับตัวผู้เสียหายนอนหงายกับพื้นแล้วนั่งคร่อมบริเวณลำตัวของผู้เสียหายจับตัวผู้เสียหายพลิกคว่ำและใช้ผ้าเช็ดหน้ามัดมือทั้งสองข้างไว้แล้วข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายนั้น สืบเนื่องมาจากความปรากฎแก่พี่สาวและพี่ชายผู้เสียหาย เมื่อตกลงกันไม่ได้เรื่องจึงต้องบานปลายกลายเป็นเรื่องร้องทุกข์ไปถึงสถานีตำรวจ แม้จากการตรวจสถานที่เกิดเหตุพบผ้าเช็ดหน้าของกลางในที่เกิดเหตุ แต่ก็เป็นเวลาหลายวันภายหลังเกิดเหตุจึงเป็นพิรุธและอาจเสริมแต่งขึ้นได้ และแม้จำเลยจะให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนและนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ แต่คำรับของจำเลยดังกล่าวเป็นเพียงพยานบอกเล่าไม่อาจนำมารับฟังประกอบเพื่อลงโทษจำเลยในคดีนี้ได้ เมื่อข้อเท็จจริงเป็นอันยุติแล้วว่าผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยร่วมประเวณีโดยสมัครใจไม่ได้มีการข่มขืน ขู่เข็ญ หรือใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหาย ทำให้การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น"
พิพากษายืน