โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๔๘๙ (ตรงกับวันขึ้น ๙ ค่ำเดือนยี่) จำเลยสมคบกันเล่นการพะนันเบี้ยโบก ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพะนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๔, ๑๐, ๑๒
จำเลยทุกคนปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คำพะยานหลักฐานโจทก์ขัดกันเอง และขัดกับเหตุผล ไม่น่าเชื่อว่าเป็นความจริง ทั้งปรากฎว่าฟ้องของโจทก์ไม่มีข้อเท็จจริงรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลา ตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา ๑๕๘(๕) และโจทก์มิได้ขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้องของโจทก์มีรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาแต่เพียงว่า "เมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๙ (ตรงกับวันขึ้น ๙ ค่ำเดือนยี่)" คำว่า "เวลา" ตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา ๑๕๘ นั้นหมายความถึงเวลาที่จำเลยกระทำความผิด และเป็นเวลาของวันเดือนปีใด เวลาเกิดเหตุเป็นความสำคัญที่ต้องกล่าวในฟ้อง เว้นแต่ในกรณีที่ไม่ทราบเวลากระทำความผิด คดีนี้ย่อมถือว่าฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ดังนัยฎีกาที่ ๔๔๓/๒๔๘๖ แม้ศาลชั้นต้นจะได้รับฟ้อง และทำการพิจารณาจนสิ้นกระแสท์ความแล้ว ก็ไม่เป็นเหตุให้ฟ้องของโจทก์กลับสมบูรณ์ขึ้นได้ จึงพิพากษายืนตามศาลล่างทั้งสอง