คดีนี้จำเลยผิดนัดไม่ใช้เงินตามสัญญายอมโจทก์จึงนำยึดที่ดินรายพิพาทนี้ น. ยื่นคำร้องขัดทรัพย์
ศาลเดิมสั่งให้ถอนการยึด
ศาลอุทธรณ์ให้ยกคำร้องขัดทรัพย์ผู้ร้องฎีกาว่า
(๑) การมอบที่ดินตีใช้หนี้ให้แก่กันเข้าลักษณซื้อขาย การที่ผู้ร้องโอนที่รายนี้ให้จำเลยจึงใช้ไม่ได้ตามกฎหมาย
(๒) การซื้อขายไม่ถูกต้องตามกฎหมายจำเลยไม่มีอำนาจให้ผู้ร้องปกครองแทน
(๓) จำเลยไม่ได้เข้าปกครองที่ดินเลย แลผู้ร้องก็มิได้ละทิ้งที่ดินกรรมสิทธิจึงยังไม่โอนไปยังจำเลย
(๔) ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดนอกเหนือข้อความที่ปรากฎในท้องสำนวน
(๕) ที่ศาลอุทธรณ์ว่าการยกที่ดินให้โดยปากเปล่าจำเลยได้กรรมสิทธิแล้ว การที่จำเลยทำหนังสือโอนกลับคืนให้ผู้ร้อง ๆ ก็ต้องได้กรรมสิทธิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าตามฎีกาข้อ ๑. ปรากฎว่าผู้ร้งอได้โอนที่ดินตีใช้หนี้แก่จำเลยตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๖๑ หรือ ๒๔๖๒ แล้ว แลจำเลยก็ได้ใช้สิทธิปกครองมา แม้การโอนจะทำไม่ถูกต้องตามกฎหมายจำเลยก็ได้กรรมสิทธิโดยทางปรปักษ์ตามฎีกาข้อ ๒ ไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าผู้ซื้อที่ดินทำไม่ถูกต้องตามแบบไม่มีอำนาจให้ผู้อื่นปกครองแทน จำเลยจึงมีอำนาจให้ผู้ร้องปกครองที่รายนี้แทนได้ ส่วนฎีกาข้อ ๓ เป็นการเถียงข้อเท็จจริง ผู้ร้องฎีกาไม่ได้ ฎีกาข้อ ๔. นั้นศาลอุทธรณ์หาได้ชี้ขาดนอกเหนือสำนวนแลหลักฐานไม่ แลตามฎีกาข้อ ๕. เห็นว่าศาลอุทธรณ์เพียงแต่ชี้ขาดว่าผู้ร้องเป็นผู้ดูแลแทนจำเลยเท่านั้น ฎีกาผู้ร้องเป็นการตั้งข้อเท็จจริงเอาเอง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้จึงพิพากษาให้ยกฎีกาผู้ร้อง
ิ