โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำ มีและขายสุราแช่ตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 5, 30, 32, 45 และริบของกลางจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติสุราฯ มาตรา 5, 30, 32 ฐานทำสุราแช่ ปรับ 200 บาทฐานมีสุราแช่ ปรับ 500 บาท ฐานขายสุราแช่ที่จำเลยทำขึ้น จำคุก1 เดือน ปรับ 3,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้ 3 ปี ของกลางริบจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คำขอท้ายฟ้องมิได้ระบุมาตรา 31จึงลงโทษไม่ได้ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องเฉพาะข้อหาความผิดฐานขายสุรา โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นสุราที่ทำขึ้นโดยฝ่าฝืนกฎหมายโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "คดีมีปัญหาจะต้องวินิจฉัยในชั้นฎีกาว่าศาลจะลงโทษจำเลยในข้อหาความผิดฐานขายสุราแช่ ที่จำเลยทำขึ้นตามฟ้องข้อ ค.ได้หรือไม่ พิเคราะห์แล้ว คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องมาในข้อ ค.ว่า จำเลยขายสุราแช่ซึ่งจำเลยได้ทำขึ้นเอง จำนวน 2 โอ่งปริมาตร 220 ลิตร ที่จำเลยทำและมีไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายอันเป็นกรณีที่โจทก์มุ่งประสงค์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานเป็นผู้ทำสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตและได้ขายสุราที่จำเลยทำขึ้นนั้นด้วย ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 30 และโจทก์ก็ได้ระบุมาในคำขอท้ายฟ้องแล้วโจทก์มิได้ฟ้องและประสงค์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานขายสุราที่รู้ว่าทำขึ้นโดยฝ่าฝืนมาตรา 5 อันเป็นความผิดตามมาตรา 31 ด้วยเหตุนี้โจทก์จึงไม่จำต้องระบุมาตรา 31 มาในคำขอท้ายฟ้องแต่อย่างใดที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ในความผิดฐานนี้ ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น แต่เนื่องจากศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงตามที่จำเลยอุทธรณ์มาว่าจำเลยได้ขายสุราที่จำเลยทำขึ้นหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นสมควรให้การวินิจฉัยความผิดของจำเลยเป็นไปตามลำดับศาล"
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่