โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้จัดบรรทุกไม้สักลงเรือเพื่อส่งไปยังร้านค้าประเทศอิตาลี ร้านผู้ซื้อในประเทศอิตาลีได้เปิดบัญชีเครดิตสำหรับราคาไม้สักที่จัดส่งไปนั้นยังธนาคารชาร์เตอร์กรงเทพฯ ประเทศไทย บริษัทจำเลยเป็นตัวแทนของบริษัทลอยด์เทรียสติโน อันเป็นบริษัทอิตาลี โจทก์ได้ชำระเงินให้แก่จำเลยเป็นเงิน ๑๕๔๕ บาท ๓๒ สตางค์ เพื่อเป็นค่าระวางบรรทุกไม้สักจากกรุงเทพ ฯ จึงจังหวัดเทรียสติโนประเทศอิตาลีไม้สักได้บรรทุกลงเรือกลไฟที่กรุงเทพ ฯ ซึ่งเป็นเรือกลไฟที่จำเลยเป็นตัวแทน และเมื่อเรือกลไฟถึงสิงคโปร์ ไม้สักจะถูกถ่ายลำไปยังเรือกลไฟซึ่งเป็นของบริษัทลอยด์เทีรยสติโน ระหว่างที่ไม้สักถึงสิงคโปร์ สงครามระหว่างประเทศอิตาลีกับประเทศอังกฤษเกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้ธนาคารชาเตอร์กรุงเทพ ฯ อันเป็นบริษัทอังกฤษจึงปฏิเสธไม่ยอมจ่ายเงินตามบัญชีเครดิตจนกว่าจะได้รับคำสั่งจากกรุงลอนดอนให้จ่าย โจทก์จึงได้โทรเลขไปยังสำนักงานที่สิงคโปร์ ไม่ให้ถ่ายไม้สักลงเรือกลไฟของอิตาลี โจทก์ได้ขอร้องให้จำเลยคืนเงินค่าระวางบรรทุกจากสิงคโปร์ถึงจังหวัดเทรียสต์เป็นเงิน ๑๓๐๒๔ บาท ๖๔ สตางค์ บัดนี้จำเลยเลิกการจากเป็นตัวแทนของบริษัทลอยด์เทรียสติโนอยู่ในมือ
และจำเลยยอมรับว่าตนไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของเงินจำนวนนี้เลยแต่ก็ไม่สามารถคืนให้โจทก์โดยปราศจากคำสั่งโดยตรงจากบริษัทลอยด์เทรียสติโน ถึงจำนวนเงินที่จำเลยได้รับชำระไว้แทน หรือนอกจากศาลจะสั่งให้คืน
ศาลแพ่งเห็นว่าโจทก์กล่าวอ้างว่า ได้ ชำระเงินแก่จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทลอยด์เทรียสติโน และในตอนท้ายว่าเงิน ๑๓๐๒๔ บาท ๖๔ สตางค์อยู่ในมือจำเลยในฐานเป็นตัวแทนบริษัทลอยด์เทรียสติโน ขอให้จำเลยคืนเงินจำนวนนี้ การที่โจทก์บรรยายฟ้องเช่นนี้และแถลงต่อศาลว่า ที่โจทก์ฟ้องจำเลยนี้เป็นส่วนตัว ไม่ใช่ในฐานะเป็นตัวแทนของบริษัทลอยด์เทรียสติโนนั้น จึงแปลไม่ได้ว่าโจทก์ขอให้จำเลยรับผิดแต่ลำพังตามประมวลแพ่ง ฯ มาตรา ๘๒๔ และเห็นว่า เมื่อโจทก์ได้ชำระเงินให้แก่จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนไปแล้ว ทันใดนั้นกรรมสิทธิในจำนวนเงินนี้ย่อมตกไปยังตัวการทันที แม้เงินจะอยู่ในมือจำเลย ก็เพียงแต่รับรักษาแทนตัวการเท่านั้น การที่โจทก์ฟ้องจำเลยให้การรับ แต่เมื่อเงินเป็นของบุคคลภายนอก ศาลจะสั่งให้ตามความตกลงยินยอมของคู่ความย่อมไม่ได้ จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้ปรากฏว่าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งได้ทราบเหตุที่สัญญาตัวแทนได้ระงับสิ้นไปแล้ว ตาม ป.พ.พ.มาตรา ๘๓๐ ฉะนั้นจะมีอะไรเกี่ยวกับสัญญาที่ทำไว้ต่อกัน ก็ชอบที่จะว่ากับตัวการต่อไป แม้จะว่าด้วยเงินของโจทก์ที่ตกอยู่ในมือจำเลย และมาตรา ๘๑๐ ก็บัญญัติว่าจำเลยผู้เป็นตัวแทนต้องรับผิดส่งเงินแก่ตัวการต่างหาก คดีโจทก์ไม่มีทางชะนะจำเลยได้ เพราะโจทก์ฟ้องจำเลยมาไม่ถูกต้องตามที่ควรจึงพิพากษายืน.