คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 527/2512

ในกรณีที่ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมเมื่อศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้จนถึงขั้นนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์แล้วย่อมเป็นการล่วงเลยเวลาที่ศาลจะมีคำสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา161 ศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้อง

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยฉ้อโกงหรือยักยอกทรัพย์ของโจทก์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 352

ศาลแขวงพระนครใต้สั่งประทับฟ้อง และสอบถามคำให้การจำเลยจำเลยให้การปฏิเสธ จึงสั่งให้นัดสืยพยานโจทก์

ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลแขวงพระนครใต้มีคำสั่งงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายแล้ววินิจฉัยว่า ฟ้องของโจทก์ไม่สามารถอ่านได้ชัดหลายตอน และขัดกันโดยชัดแจ้ง จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ว่าโจทก์พิมพ์ฟ้องผิดพลาด

ศาลอุทธรณ์พิพากษายก และให้ศาลแขวงพระนครใต้ให้โอกาสแก่โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเสียก่อน แล้วพิจารณาพิพากษาใหม่

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ฟ้องโจทก์จะพิมพ์ข้อความบางตอนผิดพลาดจึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม แต่เมื่อศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้จนถึงขั้นนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ ซึ่งเห็นได้ว่าล่วงเลยเวลาที่ศาลจะมีคำสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161 แล้ว

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น