คดีนี้ โจทก์ฟ้องกล่าวว่า เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๔๙๓ เวลากลางวัน จำเลยนี้มีมีดขอเป็นสาตราวุธได้บังอาจสมคบกันเข้าทำการขัดขวาง และใช้วาจาขู่เข็ญว่าจะทำร้ายนายทวน อัมพรรัตน์ ปลัดอำเภอหนองแคกับพวก ผู้ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานโดยชอบด้วยกฎหมายในขณะทำการรับวัดที่ดินให้แก่ผู้มีชื่อเพื่อโอนขอรับมรดกที่ดินจากผู้ตายตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมาย โดยจำเลยมีมีดขอวิ่งเข้าไปทำการห้ามมิให้นายประทวนกับวพกทำการรังวัดที่ดิน และพูดว่าถ้าขืนวัดไปจะมีเรื่อง ทั้งนี้โดยประสงค์จะขัดขวางนายประทวน ผู้ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมาย ให้งดเว้นทำการรังวัดที่ดินตามหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๑๑๙,๑๒๐
จำเลยทั้งสองรับสารภาพว่า ได้กระทำผิดจริงดังฟ้องโจทก์ทุกประการ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยเพียง ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๑๑๙ ปรับคนละ ๑๖๐ บาท ลดกึ่งหนึ่งตามมาตรา ๕๙ คงปรับคนละ ๘๐ บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีผิดตามมาตรา ๑๒๐ จำคุกคนละ ๓ เดือนลดตามมาตรา ๕๙ กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ ๑ เดือน ๑๕ วัน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามฟ้องของโจทก์ที่บรรยายถึงการกระทำของจำเลยอันมีใจความว่า "จำเลยสมคับกันใช้วาจาขู่เข็ญว่าจะทำร้ายนายประทวนปลัดอำเภอ โดยประสงค์จะขัดขวางไม่ให้นายประทวนทำการรังวัดที่ดิน ตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมาย " นั้นการกรทำเช่นนี้ ย่อมเป็นความผิดตามมาตรา ๑๒๐ แห่ง ก.ม.ลักษณะอาญา เมื่อจำเลยรับสารภาพตามฟ้องแล้ว ศาลก็พิพากษาได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๗๖ จึงพิพากษายืน