ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับอุทธรณ์คดีมโนสาเร่ การถอนอุทธรณ์ และการพิจารณาคดีที่จำเลยไม่ได้ลงนามในใบแต่งทนาย
การที่โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอค้านว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นโมฆะเพราะมีจำเลย 5 รายไม่ได้เซ็นในใบแต่งทนายนั้น เมื่อปรากฏในสำนวนว่า ศาลชั้นต้นได้เรียกจำเลยสอบสวนแล้วว่า จำเลยทั้ง 5 ได้เซ้นชื่อในใบแต่งทนาย มิใช่ลายเซ็นปลอม ดังนี้ ศาลอุทธรณ์ก็มิจำต้องสั่งคำร้องของฟ้องโจทก์นั้นประการใดอีก
การที่โจทก์กับทนายจำเลยทำสัญญาปราณีประนอมกัน โดยให้โจทก์ถอนฟ้องคดีอาญาเรื่องปลอมหนังสือ แล้วจำะลยจะถอนฟ้องอุทธรณ์คดีนั้น โจทก์ได้ถอนฟ้องคดีอาญาแล้ว และทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องอุทธรณ์ แต่ตัวจำเลยได้ทำคำร้องขอถอนทนายเสีย และไม่ยอมถอนฟ้องอุทธรณ์นั้น ศาลอุทธรณ์ย่อไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องอุทธรณ์ได้
จำเลนหลายสำนวน ซึ่งศาลชั้นต้นได้รวมพิจารณาและพิพากษาฉะบับเดียว ได้ยื่นฟ้องอุทธรณ์รวมมาฉะบับเดียวกัน ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นอุทธรณ์ ส่งสำเนาให้โจทก์ แม้จะปรากฏว่าคดีทั้งหมดนี้เป็นคดีสามัญ เพียง 2 สำนวน นอกนั้นเป็นคดีมโนสาเร่ อันคู่ความจะอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงไม่ได้ก็ดี แต่เมื่อโจทก์มิได้คัดค้านโต้แย้งความข้อนี้ในชั้นอุทธรณ์ จนกระทั่งศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น เป็นเหตุให้คดีฎีกาขึ้นมาได้ เพราะไม่ต้องห้ามแล้วเช่นนี้ โจทก์จะโต้แย้งศาลฎีกา ให้ศาลฎีกากลับพิจารณาถึงการรับอุทธรณ์ว่าเป็นการชอบไม่ชอบไม่ได้ เพราะไม่มีประเด็นในชั้นศาลฎีกาแล้ว