คดีได้ความว่า โจทก์ตั้งร้านค้าเครื่องวิทยุ และเครื่องประกอบวิทยุ โจทก์เสียภาษีเงินได้ตามแบบ ภ.ง.ด. ๒ ในในประเภทการค้าของคนกลางแล้ว ต่อมาจำเลยเรียกภาษีเพิ่มเติมจากโจทก์อีก โดยว่า โจทก์จะต้องเสียภาษีในประเภทการทำหรือซ่อมแซมบูรณะเครื่องจักรกลและเครื่องมือ โจทก์จึงฟ้องขอให้ศาลแสดงว่า การค้าเครื่องรับวิทยุ เครื่องประกอบวิทยุ และการซ่อมแซมเครื่องรับวิทยุ เป็นการค้าที่จะต้องเสียภาษีเงินได้ในประเภทการค้าขายของคนกลาง
จำเลยให้การต่อสู้ว่า การค้าของโจทก์ต้องเสียภาษีในประเภทการทำหรือซ่อมแซมบูรณะเครื่องจักร หรือเครื่องมือเครื่องใช้ ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า การค้าเครื่องรับวิทยุและส่วนประกอบ ฯ ไม่ใช่การค้าประเภทการทำหรือบูรณะเครื่องจักรกลหรือเครื่องมือเครื่องใช้ แต่โจทก์ยังไม่ได้เสียภาษีเพิ่ม จึงไม่บังคับ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลกฎหมายรัษฎากร ว่าด้วยภาษีเงินได้ (ฉะบับที่ ๒) พ.ศ.๒๔๘๒ มาตรา ๔ อนุมาตรา ๑๙ ที่ระบุว่า "การทำหรือซ่อมแซมบูรณะเครื่องจักรกล หรือเครื่องมือเครื่องใช้หรือส่วนประกอบ " นั้นไม่กินความหมายถึงการทำเครื่องรับวิทยุไม่ใช่เครื่องจักรกลและตามถ้อยคำก็ไม่มีทางจะแปลไม่ได้เช่นนั้น อนึ่งตามพระราชกฤษฎีกานี้ ก็ได้กำหนดการอาชีพไว้เป็นแต่ละชนิด ๆ ไป ฉะนั้นคำว่าหรือส่วนประกอบ ที่รวมอยู่ในเรื่องเครื่องจักร จะใช้ประกอบให้หมายความถึงส่วนเครื่องรับวิทยุด้วยไม่ได้ ศาลฎีกาพิพากษายืน