โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๓, ๖๓, ๗๗ จัตวา, ๘๕, ๘๘ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒, ๓๓, ๘๓, ๙๐ ริบของกลาง
ระหว่างพิจารณา บริษัทสยามดัทช์ โมสควิโต้ เน็ตติ้ง จำกัด ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางอนุญาต
จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๘๕, ๘๘ ประกอบมาตรา ๖๓ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๙๐ ให้จำคุกจำเลยที่ ๑ และที่ ๓ คนละ ๑ ปี และปรับคนละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนจำเลยที่ ๒ ให้ปรับ ๒๐๐,๐๐๐ บาท จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ ๑ และที่ ๓ คนละ ๖ เดือน และปรับคนละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนจำเลยที่ ๒ คงปรับ ๑๐๐,๐๐๐ บาท พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบกับไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ ๑ และที่ ๓ เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน สมควรให้โอกาสจำเลยที่ ๑ และที่ ๓ กลับตัวต่อไป โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดคนละ ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ หากจำเลยทั้งสามไม่ชำระค่าปรับ ให้บังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ที่จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ว่า จำเลยที่ ๓ เพียงผู้เดียวเป็นผู้มีอำนาจดำเนินการแทนจำเลยที่ ๒ ส่วนจำเลยที่ ๑ เป็นเพียงผู้ถือหุ้นในบริษัทจำเลยที่ ๒ เท่านั้น ในการที่จำเลยที่ ๒ ผลิตสินค้าของกลางก็มิได้ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ แต่ผลิตตามที่มีลูกค้าจากต่างประเทศว่าจ้างให้ผลิตโดยลูกค้าเป็นผู้กำหนดรูปแบบสินค้าพร้อมส่งตัวอย่างมาให้เป็นแบบด้วย ทั้งจำเลยทั้งสามไม่ทราบมาก่อนว่าโจทก์ร่วมได้ขอรับสิทธิบัตรและได้รับสิทธิบัตรแบบผลิตภัณฑ์สำหรับสินค้าตามฟ้อง จำเลยทั้งสามมิได้มีเจตนากระทำผิดคดีนี้นั้น เห็นว่า จำเลยทั้งสามได้ให้การรับสารภาพว่าจำเลยทั้งสามกระทำความผิดตามฟ้องโจทก์แล้ว ดังนั้น ข้อเท็จจริงในคดีจึงต้องรับฟังเป็นยุติถึงการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสามได้ตามที่โจทก์ฟ้อง จำเลยทั้งสามไม่อาจที่จะโต้แย้งเป็นอย่างอื่นได้ การที่จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ขึ้นมาดังกล่าวนั้น เป็นอุทธรณ์โต้แย้งข้อเท็จจริงที่รับฟังเป็นยุติไปแล้วอันถือได้ว่าเป็นการอุทธรณ์ข้อเท็จจริงขึ้นมาใหม่ว่าจำเลยทั้งสามไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้อง ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่จำเลยทั้งสามมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่รับวินิจฉัยให้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕ ประกอบ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๕ วรรคหนึ่ง?
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับจำเลยทั้งสามคนละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ลดโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ แล้ว คงปรับคนละ ๕๐,๐๐๐ บาท หากไม่ชำระค่าปรับให้บังคับจำเลยที่ ๑ และที่ ๓ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ และบังคับจำเลยที่ ๒ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง.