โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยรับค่าไถ่การขายฝากที่ดิน
จำเลยให้การต่อสู้ว่า โจทก์หมดสิทธิจะไถ่เพราะพ้นกำหนดและโจทก์สละสิทธิการไถ่แล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์และขอว่าความอย่างคนอนาถากับขอทุเลาการบังคับคดี ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว ให้ยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาเสียให้โจทก์นำค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์มาวางใน 10 วัน โจทก์นำค่าธรรมเนียมฟ้องอุทธรณ์มาเสีย แต่ไม่นำค่าธรรมเนียมค่าทนายซึ่งจะต้องใช้ให้จำเลยมาวางศาล ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์โจทก์
จำเลยคัดค้านว่าขอให้พิจารณาสั่งไม่รับอุทธรณ์เสียใหม่ศาลชั้นต้นสั่งว่าเป็นเรื่องของศาลอุทธรณ์ที่จะสั่ง จำเลยจึงยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลอุทธรณ์
ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งไม่ทุเลาการบังคับคดี โจทก์จึงนำเงินค่าธรรมเนียมกับค่าทนายซึ่งจะต้องใช้ให้จำเลยมาวางศาล
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคำร้องคัดค้านของจำเลยที่ว่าศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ไม่ชอบนั้นมิใช่อุทธรณ์คำสั่งจึงไม่ต้องวินิจฉัย แต่ก็ยังมีหน้าที่ต้องวินิจฉัยว่าอุทธรณ์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่อยู่และเห็นว่าโจทก์ไม่ได้นำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลใน 10 วัน มาวางเมื่อพ้นกำหนดแล้ว จึงเป็นอุทธรณ์ที่ขาดอายุแล้วการขอทุเลาการบังคับคดีไม่เกี่ยวกับการวางเงินค่าธรรมเนียม จึงไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์โจทก์ ให้ยกเสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 242(1)
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคำสั่งศาลชั้นต้นเป็นคำสั่งให้โจทก์ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 ค่าทนายก็เป็นค่าธรรมเนียมอย่างหนึ่ง ตามมาตรา 229 ว่าผู้อุทธรณ์จะต้องนำเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แก่คู่ความมาวางศาล เมื่อโจทก์ไม่นำมาวางภายในกำหนด อุทธรณ์โจทก์ก็เป็นอุทธรณ์ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายแม้อุทธรณ์โจทก์จะไม่ต้องห้ามตามมาตรา 223 ถึง 228 แต่ก็เป็นอุทธรณ์ที่ไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามมาตรา 229 ศาลอุทธรณ์จะรับอุทธรณ์ที่ฝ่าฝืนกฎหมายไว้พิจารณาไม่ได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกอุทธรณ์โจทก์นั้นชอบแล้ว พิพากษายืน