โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่านิติกรรมระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 3 เป็นโมฆะ จำเลยที่ 3 ไม่มีสิทธิเสนอข้อพิพาทต่อจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่มีอำนาจรับข้อพิพาทของจำเลยที่ 3 ไว้พิจารณาชี้ขาด และจำเลยที่ 4 ไม่มีอำนาจพิจารณาชี้ขาดข้อพิพาท ให้เพิกถอนคำสั่งตั้งจำเลยที่ 4 เป็นอนุญาโตตุลาการให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ยุติการพิจารณาชี้ขาดข้อพิพาท ห้ามมิให้จำเลยทั้งสี่เข้าเกี่ยวข้องกับโจทก์ และให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน 500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี กับอีกเดือนละ 2,050,000 บาท แก่โจทก์นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยทั้งสี่จะไม่เกี่ยวข้องกับโจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องอุทธรณ์ในส่วนจำเลยที่ 2 และที่ 3 ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตและให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 และที่ 3 จากสารบบความ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 และที่ 4 หรือไม่ เห็นว่า การตั้งอนุญาโตตุลาการเป็นวิธีการระงับข้อพิพาทของคู่สัญญาวิธีหนึ่งโดยไม่จำต้องนำคดีมาสู่ศาลก่อน และเป็นข้อตกลงที่เป็นไปตามเจตนาของคู่สัญญา ซึ่งตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2530 มาตรา 23 และ 30 ต่างบัญญัติให้คู่ความนำคดีมาร้องขอต่อศาลในกรณีที่คู่กรณีฝ่ายใดไม่ยอมปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ดังนั้น เมื่อคำฟ้องโจทก์ยอมรับว่ามีข้อตกลงให้ระงับข้อพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 3 โดยอนุญาโตตุลาการ หลังจากมีข้อพิพาทเกิดขึ้นแล้วจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นอนุญาโตตุลาการรับคำขอของจำเลยที่ 3 ที่เสนอให้วินิจฉัยข้อพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 1 ตั้งจำเลยที่ 4 เป็นอนุญาโตตุลาการ แม้โจทก์จะมีข้อโต้แย้งว่า สัญญาอนุญาโตตุลาการสมบูรณ์หรือไม่ หรืออนุญาโตตุลาการมีอำนาจวินิจฉัยหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่โจทก์ซึ่งถูกระบุว่าเป็นคู่สัญญาดังกล่าวจะยกขึ้นว่ากล่าวเป็นข้อต่อสู้ในชั้นพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ เมื่อกรณีไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 และที่ 4 ได้ดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นอนุญาโตตุลาการและได้มีคำวินิจฉัยแล้ว การกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 4 ตามคำฟ้องก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ไม่อาจเสนอคดีต่อศาลได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วยในผลฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น...
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.