โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีและพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและโดยไม่มีเหตุสมควรกับได้ใช้ปืนยิงผู้อื่นโดยเจนนาฆ่าและไตร่ตรองไว้ก่อนกระสุนปืนถูกผู้อื่นตายและบาดเจ็บเป็นอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙, ๒๙๘,๘๐, ๙๑ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิ
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่หลังจากสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้วจำเลยแถลงขอให้การรับสารภาพตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๔,๒๔๘, ๘๐, ๙๑ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิ ความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าเป็นกรรมเดียวกัน ลงโทษตาม มาตรา ๒๘๘ ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก ๑๕ ปีฐานมีปืน จำคุก ๑ ปี และฐานพาปืนจำคุก ๑ เดือน รวมจำคุก ๑๖ ปี ๖ เดือน
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๙ ให้ประหารชีวิต จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาเมื่อสืบพยานโจทก์ใกล้เสร็จแล้ว จึงลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๗๘ ประกอบมาตรา ๕๒(๑) ให้จำคุกตลอดชีวิต ส่วนที่ศาลชั้นต้นกำหนดโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ นั้น จะนำมารวมอีกไม่ได้นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว สาเหตุที่จำเลยยิงผู้ตายก็เนื่องมาจากที่ผู้ตายไม่ยอมจ่ายเงินรางวัลสลากกินรวบให้แก่จำเลย แม้นายเปล่งผู้เสียหายและนายปลื้มบิดาจำเลยซึ่งเป็นเพื่อนกับผู้ตายจะไกล่เกลี่ยให้เลิกแล้วต่อกันแต่จำเลยก็ยังติดใจในเรื่องนี้อยู่อีก วันเกิดเหตุเมื่อมาถึงบ้านนายปลื้มพบจำเลยอยู่ที่บ้าน นายปลื้มชวนผู้ตา่ยไปซื้อสุรา จำเลยรับอาสาจะไปกับผู้ตายเอง แต่ผู้ตายไม่ไปด้วย จำเลยว่าถ้าไปก็เรียบร้อย ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันว่าจำเลยยังโกรธเคืองผู้ตายอยู่ นายปลื้มจึงออกไปซื้อสุราเพียงคนเดียว หลังจากที่นายปลื้มออกไปแล้ว จำเลยกับผู้ตายก็โต้เถียงกันอย่างรุนแรงนายเปล่งผู้เสียหายเข้าห้ามปรามจำเลยก็ออกไปและกลับไปที่บ้านของจำเลยซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ ๕๐๐ เมตร เอาปืนลูกซองสั้นแล้วย้อนกลับมาที่บ้านนายปลื้มบิดาสอดใต้ถุนบ้านเข้าไปและยิงผู้ตาย เห็นว่า บ้านจำเลยกับบ้านนายปลื้มบิดาอยู่ห่างกันประมาณ ๕๐๐ เมตร ระยะทางไปกลับรวมกันแล้วประมาณ ๑ กิโลเมตร ในระหว่างไปและกลับนั้น จำเลยย่อมมีโอกาสคิดทบทวนว่าสมควรจะฆ่าผู้ตายหรือไม่ กับเมื่อพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ที่จำเลยลอดใต้ถุนบ้านนายปลื้มบิดาเข้าไปเพื่อปกปิดไม่ให้ผู้อื่นเห็นและยิงผู้ตาย แสดงให้เห็นถึงความไตร่ตรองไว้ก่อนของจำเลยที่จะฆ่าผู้ตาย มิใช่กรณีที่จำเลยเกิดโทสะรีบกลับไปเอาปืนที่บ้านแล้วย้อนกลับมายิงผู้ตายต่อหน้าต่อตาและต่อหน้าบุคคลอื่น ๆ ดังที่จำเลยฎีกา ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน