คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ได้นำยึดทรัพย์สินของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาต่อมาสรรพากรกรุงเทพมหานครได้อายัดทรัพย์สินของจำเลยที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาดังกล่าว จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า การที่สรรพากรกรุงเทพมหานครอายัดทรัพย์สินของจำเลยดังกล่าวเป็นการอายัดซ้ำ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๐ ขอให้มีคำสั่งให้สรรพากรกรุงเทพมหานครยกเลิกหรือเพิกถอนการอายัดทรัพย์สินของจำเลยดังกล่าวเสีย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ได้นำยึดทรัพย์สินของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ต่อมาสรรพากรกรุงเทพมหานครได้อายัดทรัพย์สินรายดังกล่าว คดีมีปัญหาในชั้นนี้ว่า การอายัดของสรรพากรกรุงเทพมหานครต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๐ หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า การยึดทรัพย์สินรายนี้เป็นวิธีการชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๑๕๔ (๑) มิใช่เป็นกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการบังคับคดีโดยยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้แทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา จึงไม่ต้องด้วยข้อห้ามมิให้ยึดหรืออายัดซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๐ บทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งลักษณะ ๒แห่งภาค ๔ ว่าด้วยการบังคับคดีที่มาตรา ๒๔๙ ให้นำมาใช้บังคับแก่วิธีการชั่วคราวนั้น หารวมถึงบทบัญญัติมาตรา ๒๙๐ นี้ไม่
พิพากษายืน.