โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ไป ๘๐๐ บาท ค้างดอกเบี้ยอีก ๕ ปี เงิน ๓๒๑ บาท รวม ๑๑๒๐ บาท จำเลยให้การว่าได้ชำระหนี้รายนี้ให้โจทก์เสร็จแล้ว โจทก์อ้างว่าสัญญาหาย ได้ทำใบรับประทับตรายี่ห้อของโจทก์ให้ไว้-เป็นหลักฐาน ศาลชั้นต้นเห็นว่าใบรับที่จำเลยอ้างไม่ได้ความชัดว่าเป็นการชำระหนี้รายพิพาท จึงพิพากษาให้จำเลยใช้เงินโจทก์ตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าหนี้รายนี้ไม่ได้ความแน่ว่าโจทก์ให้กู้ไปเป็นส่วนตัวหรือเป็นเงินของยี่ห้อตั้งยู่ฮั่วหลีซึ่งโจทก์เป็นผู้จัด การ ตามที่โจทก์ได้ออกใบรับให้ โดยประทับตรายี่ห้อของโจทก์ย่อมฟังได้ว่าการใช้เงินรายนี้ของจำเลยได้มีหลักฐานเป็นหนังสือถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าใบรับเงินที่โจทก์ทำให้จำเลยยึดถือไว้นั้นแสดงการรับเงินรายที่กู้นี้ถูกต้องแล้ว ส่วนที่มีข้อความนอกไปถึงหนี้ค้างชำระรายอื่นนั้นโจทก์มิได้ฟ้อง จึงบังคับไม่ได้ และที่ว่าใบรับเงินไม่มีกล่าวเรื่องดอกเบี้ยจึงไม่ตรงกับสัญญากู้ซึ่งได้กล่าวเรื่องดอกเบี้ยด้วยนั้นไม่สำคัญ เพราะเมื่อมีใบรับเงินแสดงว่าได้รับชำระต้นเงินแล้ว กฎหมายให้สันนิษฐานว่าได้รับดอกเบี้ยแล้วด้วย จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์.