โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน ๔๕,๑๒๕ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๓๘,๐๐๐ บาท จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยทั้งสองไม่ผิดสัญญา โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกเงินมัดจำท่อคืน โจทก์ไม่มีสิทธินำท่อออกขายทอดตลาด
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้โจทก์ใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ ๑,๐๐๐ บาท แทนจำเลยทั้งสอง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ทำสัญญาซื้อลมออกซิเจนและแก๊สอะเซทิลีน จากจำเลยที่ ๑ ซึ่งมีจำเลยที่ ๒ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ โจทก์วางเงินมัดจำเป็นค่ายืมท่อลมและแก๊ส ๔๐ ท่อ ราคาท่อละ ๑,๘๐๐ บาท รวมเป็นเงิน ๗๒,๐๐๐ บาท ต่อมาโจทก์ทำสัญญาซื้อลมออกซิเจนและแก๊สอะเซทิลีนจากจำเลยที่ ๑ อีกครั้งเป็นเงิน ๘๑,๖๐๐ บาท โดยยังคงถือเอาเงินมัดจำจำนวน ๗๒,๐๐๐ บาท เป็นเงินมัดจำค่ายืมท่อต่อไป ต่อมาโจทก์เลิกซ่อมรถจึงโทรศัพท์แจ้งให้จำเลยทั้งสองรับท่อคืน และให้คืนเงินมัดจำให้แก่โจทก์ จำเลยทั้งสองได้รับท่อคืนไป ๖๐ ท่อ คงเหลืออยู่ที่โจทก์อีก ๔๐ ท่อ โจทก์จึงมีหนังสือให้จำเลยทั้งสองรับท่อที่เหลือจำนวน ๔๐ ท่อ คืนและให้คืนเงินมัดจำแก่โจทก์ มิฉะนั้นโจทก์จะนำท่อดังกล่าวออกขายทอดตลาด จำเลยทั้งสองทราบแล้วก็เพิกเฉย โจทก์จึงประกาศขายท่อดังกล่าวกับแจ้งให้จำเลยทั้งสองทราบ แล้วจึงขายให้ผู้ประมูลได้ในราคาท่อละ ๘๕๐ บาท คิดเป็นเงิน ๓๔,๐๐๐ บาท เมื่อนำมาหักกับเงินมัดจำที่จำเลยทั้งสองต้องคืนแก่โจทก์จำนวน ๗๒,๐๐๐ บาท แล้วเงินยังขาดอยู่ ๓๘,๐๐๐ บาท โจทก์ได้มีหนังสือแจ้งให้จำเลยทั้งสองชำระเงินที่ขาดดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยอัตราตามกฎหมายคืนให้แก่โจทก์ แต่จำเลยทั้งสองไม่ชำระ
พิเคราะห์แล้ว คดีมีปัญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า การที่จำเลยทั้งสองได้รับหนังสือของโจทก์ให้มารับท่อคืนและคืนเงินมัดจำท่อแก่โจทก์แล้ว แต่จำเลยทั้งสองนิ่งเฉยไม่ทักท้วง โจทก์จะมีสิทธิขายท่อดังกล่าว ได้หรือไม่ เห็นว่า การที่โจทก์มีหนังสือแจ้งให้จำเลยทั้งสองมารับท่อและคืนเงินมัดจำ มิฉะนั้นจะนำท่อออกขายทอดตลาดอันเป็นการแสดงเจตนาและความประสงค์ของโจทก์ แม้จำเลยทั้งสองได้ทราบเจตนาของโจทก์แล้วก็ตาม แต่เมื่อจำเลยทั้งสองไม่ได้ตกลงด้วยดังกล่าวโจทก์ก็ย่อมไม่มีสิทธิที่จะนำท่อออกขายตามที่ได้แจ้ง ทั้งนี้เพราะในหนังสือสัญญาซื้อขายและสัญญายืมท่อระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งสองนั้นไม่ได้กำหนดให้โจทก์มีสิทธิที่จะขายท่อของจำเลยทั้งสองเพื่อนำเงินที่ได้มาหักออกจากเงินมัดจำค่ายืมท่อตามความต้องการโจทก์ได้ แม้จำเลยทั้งสองจะมีหน้าที่ที่จะต้องคืนเงินมัดจำให้แก่โจทก์ แต่โจทก์ซึ่งเป็นลูกหนี้จำเลยตามสัญญายืมท่อก็มีหน้าที่ต้องคืนท่อของจำเลยทั้งสองให้แก่จำเลยทั้งสองด้วย เมื่อโจทก์นำท่อของจำเลยทั้งสองไปขายโดยไม่มีสิทธิที่จะทำได้ โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิเรียกให้จำเลยทั้งสองคืนเงินมัดจำค่ายืมท่อแก่โจทก์ ทั้งนี้ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๓๖๙ ฉะนั้นที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องมานั้น จึงเป็นการชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.