โจทก์ฟ้องว่าที่ดินโฉนดที่ 177 เป็นของโจทก์และนายไว เทือกทองเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2498  นายซุ่นจุ๊ย  แซ่โง้ว ได้ทำสัญญาเช่าที่แปลงนี้บางส่วนทางทิศเหนือเนื้อที่ประมาณ 1 งาน ราคาประมาณ 6,000 บาท เพื่อทำเป็นโรงเก็บรถยนต์ มีกำหนด 10 ปี บัดนี้ครบกำหนด 10 ปีแล้ว โจทก์ได้บอกให้ออกไป  นายชุ่นจุ๊ย  แซ่โง้ว ไม่ยอมรื้อถอนไป  โจทก์จึงได้ฟ้องขับไล่นายซุ่นจุ๊ย  แซ่โง้ว  เป็นสำนวนหนึ่งแล้ว
นายซุ่นจุ๊ย  แซ่โง้ว  ได้ให้จำเลยเช่าช่วงทำเป็นสถานที่รำวงและขายเครื่องดื่มโดยโจทก์มิได้ตกลงยินยอมด้วย  โจทก์ให้จำเลยขนย้ายออกไป จำเลยไม่ยอมออก  โจทก์จึงฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารตลอดทั้งเรียกค่าเสียหายด้วย
จำเลยให้การว่า จำเลยได้เช่าอาคารบ้านเลขที่ 215/1 จากนายซุ่นจุ๊ย แซ่โง้ว  ได้เปิดเป็นโรงรำวงและจำหน่ายสุราเบียร์ทั้งหลายและน้ำชากาแฟ โดยจำเลยเข้าใจว่าเป็นของนายซุ่นจุ๊ย แซ่โง้ว
จำเลยขอให้เรียกนายซุ่นจุ๊ย  แซ่โง้ว  ผู้ให้เช่าเข้ามาเป็นคู่ความเพื่อต่อสู้คดีกับโจทก์  ศาลชั้นต้นเห็นพ้องด้วย  และนายซุ่นจุ๊ย  แซ่โง้ว ก็ไม่คัดค้าน
ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2508 จำเลยแถลงว่าจำเลยได้ออกไปจากที่พิพาทแล้ว  ฝ่ายโจทก์ก็แถลงว่าไม่ติดใจเอาค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสอง    ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์  ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องให้ขับไล่ทุกคนที่อยู่ในที่พิพาทออกไป  ให้ผู้ร้องสอดรื้อสิ่งปลูกสร้างออกไปด้วย
ผู้ร้องสอดอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องสอดฎีกา
ปัญหาวินิจฉัยที่ผู้ร้องสอดฎีกาว่า การบังคับให้ผู้ร้องสอดรื้อถอนโรงเรือนออกไปจากที่พิพาทเป็นการนอกฟ้องและเกินคำขอนั้นเห็นว่าผู้ร้องสอดได้ร้องเข้ามาต่อสู้คดีกับโจทก์อ้างว่ามีสิทธิในที่พิพาท  ผู้ร้องสอดมีโรงเรือนปลูกอยู่ในที่นั้น  ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 58 บัญญัติว่า ผู้ร้องสอดที่เข้ามาเป็นคู่ความตาม  มาตรา 57(1) และ (3)  มีสิทธิเสมือนหนึ่งว่าตนได้ฟ้องหรือถูกฟ้องเป็นคดีเรื่องใหม่  อาจได้รับหรือถูกบังคับให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมได้
คดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท  ผู้ร้องสอดเข้ามาต่อสู้คดีกับโจทก์อ้างว่าที่พิพาทเป็นของผู้ร้องสอด  แต่ผู้ร้องสอดนำสืบไม่สม ผู้ร้องสอดจึงต้องรับผิดตามคำพิพากษาข้อเท็จจริงได้ความว่า  ผู้ร้องสอดเข้ามายึดถือที่พิพาทปลูกสร้างโรงเรือนไว้โดยปราศจากสิทธิใด ๆ อันจะพึงอ้างได้โดยชอบด้วยกฎหมายผู้ร้องสอดจึงต้องถูกบังคับให้รื้อถอนไป หาเป็นการบังคับนอกฟ้องหรือเกินคำขอไม่  ฎีกาของผู้ร้องสอดทั้งหมดฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน