นายจูภรรยาโจทก์ได้เอาสินบริคณห์ไปขายฝากจำเลยไว้  โดยโจทก์ไม่ได้ไปลงชื่อในสัญญาด้วยต่อมานางจูผิดสัญญา  จำเลยฟ้องนางจูคนเดียว  ศาลตัดสินให้ไถ่  ครั้นเวลาบังคับศาลกลับบังคับให้นางจูออกจากที่ดิน  จึงเปนเหตุให้โจทก์ฟ้องในข้อนี้
ศาลเดิมตัดสินว่าโจทก์ทราบนิติกรรมที่ภรรยาตนทำไว้แล้วไม่บอกล้างเกินปี  จึงหมดสิทธิที่จะฟ้องให้เพิกถอนนิติกรรมนั้นได้  ให้ยกฟ้องและคำร้องโจทก์เสีย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยได้ฟ้องนางจูฐานผิดสัญญา  จนศาลตัดสินให้ใช้หนี้แล้วดังนี้  เปนเหตุอย่างหนึ่งตาม ม.๑๔๒  ต้องถือว่าโจทก์ให้สัตยาบันแล้ว  ให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยฟ้องนางจูแต่คนเดียวไม่ได้ฟ้องโจทก์ด้วย  และไม่ได้บอกให้โจทก์ทราบและไม่ปรากฏว่าโจทก์รับรองหนี้ ฯลฯ ตาม ม.๑๔๒ จะถือว่าโจทก์ให้สัตยาบันไม่ได้  ตามสำนวนไม่ปรากฏว่าโจทก์ทราบนิติกรรมของนางจูแล้วไม่บอกล้าง  ครั้นโจทก์ทราบเหตุฟ้องร้องและยึดทรัพย์ก็เข้าขัดขวางต้องนับว่าโจทก์บอกล้างภายในกำหนด  จำเลยไม่มีสิทธิยึดที่รายนี้ได้  จึงตัดสินกลับศาลล่างทั้ง  ๒  ให้โจทก์ชนะคดี