ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 105, 108, 148, 154 ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2516 มาตรา 31, 32, 39 ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2522 มาตรา 18, 21, 27 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3, 91 ให้เรียงกระทงลงโทษ ฐานมีแร่วุลแฟรมไว้ในครอบครองเกิน 2 กิโลกรัม ปรับ 3,000 บาท ฐานขนแร่วุลแฟรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 3,000 บาท รวมปรับ 6,000 บาท ริบแร่วุลแฟรมและรถยนต์แลนด์โรเวอร์ของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "เมื่อคดีฟังได้ว่า จำเลยมีแร่ของกลางไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และใช้รถยนต์แลนด์โรเวอร์หมายเลขทะเบียน น.ศ. 04350 ขนแร่ของกลางโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขนแร่จากพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย จึงต้องริบแร่และรถยนต์ของกลางดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไว้โดยละเอียดแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้นแต่ที่ศาลชั้นต้นนำพระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 มาตรา 18,21, 27 มาใช้ปรับบทลงโทษจำเลยและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนมานั้นยังคลาดเคลื่อนอยู่ เพราะพระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 เป็นกฎหมายที่ใช้ภายหลังวันกระทำผิดและบทมาตราที่อ้างถึงนั้นไม่เป็นคุณแก่จำเลยศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 105, 108, 148, 154 พระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2516 มาตรา 31, 32, 39 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์"