ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานในคดีอนุญาโตตุลาการ: การประมาทและการรับรองพยาน
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องว่า คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการรับฟังพยานหลักฐานหรือไม่ และหากยอมรับหรือบังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการจะเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือไม่ การที่ ช. มาให้ถ้อยคำในชั้นพิจารณาของอนุญาโตตุลาการว่าไม่ได้เป็นฝ่ายประมาทแต่ในคืนเกิดเหตุพนักงานสอบสวนขอร้องให้รับสารภาพเพื่อช่วยเหลือทายาทของผู้ตายให้เบิกเงินจากบริษัทประกันภัยได้นั้น อนุญาโตตุลาการไม่เชื่อว่าพนักงานสอบสวนจะพูดขอร้อง ช. ต่อหน้าตัวแทนของบริษัทประกันภัย อีกทั้งการที่ตัวแทนบริษัทประกันภัยลงลายมือชื่อในบันทึกดังกล่าวเท่ากับยอมรับว่าบันทึกฉบับดังกล่าวเป็นเอกสารที่ถูกต้อง จึงมีน้ำหนักรับฟังได้ว่า ช. จอดรถบนไหล่ทางในที่มืดมีแสงสว่างไม่เพียงพอจึงเป็นฝ่ายประมาท ส่วนประจักษ์พยานที่ไปให้ถ้อยคำในชั้นพิจารณาของอนุญาโตตุลาการว่าที่เกิดเหตุมีแสงสว่างเพียงพอมองเห็นได้ในระยะ 150 เมตร นั้น มีน้ำหนักน้อยกว่าไม่อาจหักล้างการยอมรับของ ช. ได้ การที่อนุญาโตตุลาการได้พิจารณาพยานหลักฐานทั้งหมดของทั้งสองฝ่าย แล้วนำมาชั่งน้ำหนักว่าพยานหลักฐานฝ่ายใดดีกว่ากัน และชี้ขาดว่า ช. เป็นฝ่ายประมาทฝ่ายเดียว ให้ผู้ร้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทผู้ตาย คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการย่อมไม่ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการรับฟังพยานหลักฐานและชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น การยอมรับหรือการบังคับตามคำชี้ขาดจึงไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน