คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลยฐานนำสิ่งของต้องห้ามออกนอกราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติศุลกากรโดยปรับเรียงตัว
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะการปรับ คือให้วางเกณฑ์ปรับจำเลยทั้งสองสี่เท่าอย่างเดียวกับศาลชั้นต้น แต่ให้ปรับรวมกันไม่ใช่เรียงตัว จำเลยทั้งสองรับสารภาพ ให้ปรานีลดโทษกึ่งหนึ่ง จำเลยทั้งสองจึงถูกปรับรวมกันเป็นเงิน 2,326 บาท 20 สตางค์ แต่ส่วนตัวนายกั๊กบ๊อที่ต้องเพิ่มโทษหนึ่งในสามนั้น จำเลยมีสองคนให้แบ่งค่าปรับเป็นสองส่วนเสียก่อน แล้วจึงเพิ่มส่วนนายกั๊กบ๊อ จำนวนค่าปรับที่แบ่งแล้วคือ 23,260 บาท 20 สตางค์ หนึ่งในสามจึงเป็น 7,753 บาท 40 สตางค์ ต่อจากนี้ให้ลดฐานปรานีครึ่งหนึ่งเหลือ3,876 บาท 70 สตางค์ เงินจำนวนนี้เป็นค่าปรับส่วนตัวนายกั๊กบ๊อโดยเฉพาะที่เพิ่มแล้วและลดแล้ว
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษาว่า ศาลอุทธรณ์ให้ปรับรวมกันชอบแล้ว ปรากฏว่านายฮี้ตาย จึงให้จำหน่ายคดีสำหรับนายฮี้