เจ้าหนี้รายที่ 10 ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เจ้าหนี้รายที่ 8 โต้แย้งว่าเจ้าหนี้รายนี้ไม่ได้ยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดเวลาสองเดือนนับแต่วันประกาศโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดฯ ขอให้ยกคำขอรับชำระหนี้รายนี้เสีย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้วเสนอความเห็นต่อศาลแพ่งว่า เห็นควรให้ยกคำขอรับชำระหนี้รายนี้เสียทั้งสิ้น ศาลแพ่งมีคำสั่งให้ยกคำร้องตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้เจ้าหนี้รายนี้ได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ยื่นคำขอไว้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ข้อเท็จจริงได้ความตามสำนวนการสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า เจ้าหนี้รายนี้มีภูมิลำเนาอยู่ที่ประเทศไลบีเรีย เคยมอบอำนาจให้นายวรธรรม ชีรานนท์ มีอำนาจยื่นฟ้องคดีต่อศาลและดำเนินการทางกฎหมายทั้งทางแพ่งทางอาญา และทางคดีล้มละลายต่อบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลได้ตามหนังสือมอบอำนาจลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2518 และนายวรธรรมได้ใช้หนังสือมอบอำนาจดังกล่าวฟ้อง จำเลยเรียกค่าเช่าเรือต่อศาลแพ่ง เมื่อ พ.ศ. 2519 ศาลแพ่งพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่เจ้าหนี้รายนี้ ดังปรากฏตามคำพิพากษาศาลแพ่งคดีหมายเลขแดงที่ 11533/2519 คดีถึงที่สุดต่อมาบริษัทเรือแพน - อิสลามิค จำกัด เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2520 ศาลแพ่งมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2521 และประกาศโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2521 ครบกำหนดเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ในวันที่ 17 ธันวาคม 2521 แต่เจ้าหนี้รายนี้โดยนายวรธรรมผู้รับมอบอำนาจได้มายื่นคำขอรับชำระหนี้เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2522 ซึ่งเป็นการยื่นล่าช้ากว่ากำหนดไปประมาณหนึ่งเดือนโดยได้ยื่นคำร้องขอขยายกำหนดเวลาต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มาพร้อมกับคำขอรับชำระหนี้ด้วย ปัญหาที่โต้เถียงกันมีว่า การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะมีอำนาจขยายกำหนดเวลาให้แก่เจ้าหนี้ซึ่งอยู่นอกราชอาณาจักรได้นั้น เจ้าหนี้จะต้องยื่นคำร้องขอขยายกำหนดเวลาเสียก่อนครบกำหนดสองเดือนนับแต่วันประกาศคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดหรือไม่
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช2483 มาตรา 91 บัญญัติว่า "เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายจะเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์หรือไม่ก็ตาม ต้องยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดเวลาสองเดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แต่ถ้าเจ้าหนี้อยู่นอกราชอาณาจักร เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะขยายกำหนดเวลาให้อีกได้ไม่เกินสองเดือน" ตามบทบัญญัติดังกล่าวจะเห็นได้ว่ากฎหมายมิได้บัญญัติว่าเจ้าหนี้จะต้องยื่นคำร้องขอขยายกำหนดเวลาก่อนครบกำหนดสองเดือนตามประกาศแต่อย่างใด หากแต่ให้อยู่ในอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะขยายกำหนดเวลาให้อีกได้ไม่เกินสองเดือนหากได้ความว่าเจ้าหนี้นั้นอยู่นอกราชอาณาจักร กรณีเช่นนี้จะนำมาตรา 23 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการขยายหรือย่นระยะเวลามาใช้บังคับหาได้ไม่ เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 เป็นบทบัญญัติให้อำนาจศาลที่จะขยายหรือย่นระยะเวลาใดเมื่อเห็นสมควรภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นคนละกรณีกับพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 91 อันเป็นบทบัญญัติให้อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะขยายกำหนดเวลาการขอรับชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ที่อยู่นอกราชอาณาจักรได้อีกไม่เกินสองเดือน ฉะนั้นการที่เจ้าหนี้รายนี้ซึ่งอยู่นอกราชอาณาจักรได้ยื่นคำร้องขอขยายกำหนดเวลามาพร้อมกับคำขอรับชำระหนี้ แม้จะเกินกำหนดสองเดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้วก็ยังอยู่ในอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะพิจารณาขยายกำหนดเวลาให้ได้ตามมาตรา 91
ปัญหาต่อไปมีว่า มีเหตุสมควรที่จะขยายกำหนดเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้หรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ถึงแม้หนังสือมอบอำนาจลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2518 จะมอบให้นายวรธรรมมีอำนาจดำเนินการเกี่ยวกับคดีล้มละลายได้ด้วยก็ตาม แต่นายวรธรรมก็เคยใช้หนังสือมอบอำนาจฉบับนี้ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งเรียกเงินค่าเช่าเรือมาครั้งหนึ่งแล้วจนคดีถึงที่สุดก่อนที่จำเลยจะมาถูกฟ้องเป็นคดีล้มละลายการที่จะมายื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีนี้จึงเป็นการดำเนินการขึ้นใหม่ในอีกคดีหนึ่ง ซึ่งสมควรจะสอบถามเจ้าหนี้เสียก่อนว่าจะอนุมัติให้ดำเนินการต่อไปหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่เจ้าหนี้และผู้รับมอบอำนาจหากจะพึงมี ฉะนั้นการที่นายวรธรรมได้มีหนังสือติดต่อขอความเห็นจากเจ้าหนี้ก่อนที่จะมายื่นคำขอรับชำระหนี้จึงเป็นการสมควร เหตุที่ได้ล่าช้าไปบ้างเพราะการติดต่อกับเจ้าหนี้ซึ่งอยู่ต่างประเทศต้องใช้เวลานานกว่าปกติธรรมดา แต่ก็ยังอยู่ในระยะเวลาที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะขยายกำหนดเวลาให้ได้นั่นเอง ทั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็เชื่อว่าลูกหนี้ได้เป็นหนี้ตามคำพิพากษาแก่เจ้าหนี้รายนี้อยู่จริง จึงมีเหตุสมควรที่จะขยายกำหนดเวลาให้ได้ตามขอ"
พิพากษายืน