ได้ความว่าจำเลยเป็นผู้ขายสุราน้ำสุราอยู่ ๕ โหล ทุก ๆ โหลมีดีกรีไม่ถึง ๒๘ ดีกรีตามอัตราของรัฐบาล โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับศาลชั้นต้นว่าโจทก์ไม่มีพะยานเลยว่า จำเลยเอาน้ำเจือปนสุรานี้ การที่ดีกรีลดลงไม่ใช่ความสันนิษฐานเด็ดขาดว่าจำเลยเจือปนน้ำ จำเลยสืบได้ว่าดีกรีลดเองได้ เพราะการดองยาและระเหยไปตามอากาศ จึงให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาตัดสินว่าเรื่องนี้จำเลยเป็นรับอนุญาตให้ขายสุรา ตาม ม.๙ แห่งพ.ร.บ.ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๔๗๖ บัญญัติไว้ชัดว่า สุราที่มีดีกรีเปลี่ยนแปลงไปนั้นถ้าอยู่ในความครอบครองของผู้ขายคนใดก็ต้องมีความผิด เมื่อกฎหมายบัญญัติเด็ดขาดไว้ดังนี้แล้ว แม้จะจริงอย่างจำเลยนำสืบก็ไม่พ้นผิด จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ให้ปรับจำเลย ๒๔๐ บาท ยืนตามศาลชั้นต้น