โจทก์ฟ้องว่าระหว่างวันเวลาเกิดเหตุ จำเลยบังอาจเคลื่อนย้ายโคมีชีวิต ๒ ตัว จากเขตอำเภอเมืองนราธิวาส เข้าไปในเขตท้องที่ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยมิได้รับอนุญาต ทั้งนี้เป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรจังหวัดนราธิวาสซึ่งอาศัยอำนาจตามมาตรา ๖, ๘, ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ. ๒๔๙๐ ได้ออกประกาศไว้เมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๐๖ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญํติป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๖, ๘, ๑๐, ๑๗ และตามประกาศคณะกรรมการดังกล่าว กับให้คืนของกลางแก่จำเลยและสั่งจ่ายเงินรางวัลนำจับแก่ผู้จับกุมตามกฎหมาย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าประกาศคณะกรรมการมิได้สั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายตามนัยคำพิพากษาที่ ๔๙๐/๒๕๐๓ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่าประกาศคณะกรรมการตรงกับความมุ่งหมายของพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๘ ซึ่งให้อำนาจคณะกรรมการไว้หลายวิธี ฉะนั้น เมื่อออกประกาศควบคุมก็ย่อมถือเป็นการห้ามการค้ากำไรเกินควรอยู่ในตัว
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อความในมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ. ๒๔๙๐ มุ่งหมายให้คณะกรรมการมีอำนาจระบุชื่อหรือประเภทสิ่งของและสั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรในสิ่งของนั้นในเขตอำนาจ เมื่อได้ปฏิบัติแล้ว จึงให้มีอำนาจสั่งการเกี่ยวกับสิ่งของตามที่เห็นสมควร โดยเฉพาะคดีนี้คณะกรรมการได้ออกประกาศห้ามเคลื่อนย้าย โดยมิได้สั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรแต่ประการใด ประกาศคณะกรรมการจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๔๙๐/๒๕๐๓ ระหว่างผู้ว่าคดีศาลแขวงนครสวรรค์ โจทก์ นายกัง แซ่อึ๊ง จำเลย พิพากษายืน.