ได้ความว่า โจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินและฝั่งคลองมีสะพานข้ามคลองจากที่ดินของโจทก์ไปสู่ที่ดินของจำเลย โจทก์และผู้อื่นได้อาศัยเดินข้ามสะพานนี้ผ่านที่จำเลยออกทางสาธารณะ ต่อมาจำเลยทำรั้วปิดกั้นทางเดินตอนเชิงสะพานฝั่งที่ดินของจำเลย เป็นเหตุให้โจทก์ไม่มีทางเดินสู่ทางสาธารณะได้ โจทก์จึงฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าทางเดินในที่ดินของจำเลยเป็นภาระจำยอม และให้จำเลยรื้อรั้วและจดทะเบียนภาระจำยอมไว้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังว่า โจทก์ได้ภาระจำยอมนี้โดยอายุความแล้ว พิพากษาว่า ทางเดินในที่ดินของจำเลยเป็นภาระจำยอมซึ่งโจทก์ได้สิทธิเดินผ่านได้ตลอดไปให้เจ้าพนักงานที่ดินรับจดทะเบียนเป็นภาระจำยอมรายนี้ไว้และให้จำเลยรื้อรั้วเปิดทางเดินในสภาพเดิม
จำเลยฎีกา คงมีปัญหาที่ศาลชั้นต้นสั่งรับขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเพียงว่า เมื่อปรากฎว่าโจทก์ก็ติดคลองสาธารณะโจทก์พอจะใช้เรือสัญจรไปมาได้ดังนี้ จะมีสิทธิฟ้องขอให้เปิดทางเดินนี้หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าการที่โจทก์ใช้เรือสัญจรไปมาได้ก้ดี ไม่เป็นเหตุทำให้โจทก์ผู้ได้รับสิทธิภาระจำยอมอยู่แล้ว ต้องศูนย์เสียไป เมื่อปรากฎว่าทางและคลองที่กล่าวไม่สะดวกหรือใช้ประโยชน์ไม่ได้เท่าทางพิพาท ตามประมวลแพ่งมาตรา ๑๔๐๐ จึงพิพากษายืน