โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็ครวม 3 ฉบับ ให้แก่ผู้มีชื่อผู้มีชื่อได้นำเช็คทั้งสามฉบับดังกล่าวมาแลกเงินสดจากโจทก์โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย ครั้นเช็คถึงกำหนดโจทก์ได้นำเข้าบัญชีธนาคารเพื่อเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วประทับฟ้องไว้พิจารณา
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยได้ออกเช็คตามฟ้องฉบับแรกและฉบับที่สองเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 เป็นความผิด 2 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 เดือน รวมทั้งสิ้นจำคุก 4 เดือน สำหรับเช็คฉบับที่สามฟังว่า จำเลยออกโดยไม่ได้ลงวันที่สั่งจ่าย ต่อมานายชิตร เล้าสกุลเป็นผู้ประทับวันที่ลงในภายหลัง เป็นเช็คที่ไม่มีวันที่ผู้ออกเช็คกระทำผิด เป็นการออกเช็คที่ไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับการออกเช็คฉบับที่สาม
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับเช็คฉบับแรกและเช็คฉบับที่สองด้วย นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ฎีกาโจทก์ในปัญหาข้อกฎหมายสำหรับเช็คฉบับที่สามตามเอกสารหมาย จ.5 ว่าจำเลยกำหนดวันให้นายชิตรลงวันที่ในเช็คดังกล่าว จำเลยต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้ออกเช็คเอกสารหมาย จ.5 โดยมิได้ลงวันที่ออกเช็คมอบให้นายชิตร ต่อมานายชิตรเป็นผู้ประทับตราวันที่ลงในเช็ค คือวันที่ 7กุมภาพันธ์ 2526 แล้วนำไปแลกเงินสดจากโจทก์ ครั้นถึงวันที่ที่ประทับลงในเช็ค โจทก์นำเช็คเข้าเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เห็นว่าจำเลยออกเช็คเอกสารหมาย จ.5 โดยไม่ได้ลงวันที่สั่งจ่ายย่อมถือได้ว่าไม่มีวันที่ผู้ออกเช็คกระทำผิดแม้จำเลยจะให้นายชิตรลงวันที่ในเช็คก็ตามก็มีผลเพียงให้เช็คนั้นสมบูรณ์เพื่อใช้สิทธิฟ้องร้องกันในทางแพ่งเท่านั้น หามีผลให้เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คตามที่โจทก์ฟ้องไม่ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมานั้นชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
สำหรับฎีกาโจทก์เกี่ยวกับเช็คฉบับแรกและฉบับที่สองตามเอกสารหมาย จ.1 และ จ.3 นั้น...รูปคดีฟังได้ว่า เช็คตามเอกสารหมาย จ.1และ จ.3 ที่โจทก์นำมาฟ้องคดีนี้ เป็นเช็คที่จำเลยออกไว้เพื่อค้ำประกันเงินที่นายวิฑูรย์กู้จากบริษัทสินไทยพาณิชย์การเครดิตจำกัด จริง มิใช่เช็คที่จำเลยออกโดยมีเจตนาเพื่อชำระหนี้ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามโจทก์ฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้วฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น"
พิพากษายืน.