โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102 พ.ร.บ. อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 ป.อ. มาตรา 32, 33, 91 ริบของกลางทั้งหมด ยกเว้นปืนพกออโตเมติก (GLOCK) เครื่องหมายทะเบียนปืน กท. 3803140 ส่วนเงินสด 299,500 บาท สมุดบัญชีเงินฝากและเงินในบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาย่อยตลาดสมุทรปราการ เลขที่ 360-2-12448-6 โจทก์จะยื่นคำร้องขอริบให้ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตาม พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่ง พ.ร.บ. อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม (ที่ถูกมาตรา 72 วรรคหนึ่ง และวรรคสาม เท่านั้น) เรียงกระทงลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 91 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 18 ปี ฐานมีอาวุธปืนไม่มีหมายเลขทะเบียนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต กับฐานมีอาวุธปืนมีหมายเลขทะเบียนของผู้อื่นไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานมีอาวุธปืนไม่มีหมายเลขทะเบียนซึ่งเป็นบทหนัก ตาม ป.อ. มาตรา 90 จำคุก 2 ปี รวมจำคุก 20 ปี คำรับสารภาพในชั้นจับกุมและทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสี่ตาม ป.อ. มาตรา 78 คงจำคุก 15 ปี ริบของกลางทั้งหมด ยกเว้นปืนพกออโตเมติก (GLOCK) เครื่องหมายทะเบียนปืน กท. 3803140 เงินสด 299,500 บาท กับเงินฝากในบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เลขที่ 360-2-12448-6
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 67 ให้จำคุก 10 ปี เมื่อรวมกับโทษจำคุกฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตแล้ว รวมจำคุก 12 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสี่ตาม ป.อ. มาตรา 78 คงจำคุก 9 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า? ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้มี พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 มาตรา 8 และมาตรา 19 ยกเลิกความในมาตรา 15 และมาตรา 67 แห่ง พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และให้ใช้ข้อความใหม่แทนโดยในบทความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง ทั้งตามกฎหมายเดิมและกฎหมายที่แก้ไขใหม่คงใช้ข้อความทำนองเดียวกัน ดังนั้น ต้องใช้บทความผิดตามกฎหมายเดิมที่ใช้ในขณะกระทำความผิดบังคับแก่จำเลยในส่วนนี้ ส่วนบทกำหนดโทษตามมาตรา 67 กฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำความผิดแตกต่างจากกฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิด แต่กฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิดเป็นคุณมากกว่าในส่วนที่เกี่ยวกับโทษซึ่งมีหลายสถานที่จะลงได้ แต่โทษปรับตามกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำความผิดเป็นคุณมากกว่า จึงต้องใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณบังคับแก่จำเลยไม่ว่าในทางใดตาม ป.อ. มาตรา 3 ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาจึงมีอำนาจยกขึ้นอ้างและแก้ไขโดยปรับบทกฎหมายให้ถูกต้อง รวมทั้งแก้ไขโทษเสียใหม่ให้เหมาะสมสอดคล้องกับบทกฎหมายที่แก้ไขใหม่ได้ด้วย ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 และคำรับในชั้นจับกุมของจำเลยเป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา คดีมีเหตุบรรเทาโทษ แต่ศาลล่างทั้งสองลดโทษ ตาม ป.อ. มาตรา 78 ให้แก่จำเลยเพียงหนึ่งในสี่นั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา เห็นสมควรแก้ไขเสียใหม่ให้เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดี โดยให้ลดโทษแก่จำเลยหนึ่งในสาม และให้มีผลถึงความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาในความผิดฐานนี้ แต่เมื่อมีเหตุบรรเทาโทษแก่จำเลย ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและลดโทษให้แก่จำเลยในความผิดดังกล่าวได้ สำหรับสมุดบัญชีรายชื่อ รายรับและรายจ่าย ใบรับฝากเงินของธนาคารต่าง ๆ ของกลาง เมื่อฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่า ของกลางดังกล่าวเป็นเครื่องมือ เครื่องใช้ หรือวัตถุอื่นหรือทรัพย์สินซึ่งจำเลยได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีจึงไม่อาจริบของกลางดังกล่าวได้ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 102 และ ป.อ. มาตรา 33 ปัญหานี้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา แต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียใหม่ให้ถูกต้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง (เดิม), 67 (ที่แก้ไขใหม่) วางโทษฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง จำคุก 8 ปี ลดโทษตาม ป.อ. มาตรา 78 ให้กระทงละหนึ่งในสาม คงลงโทษฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง จำคุก 5 ปี 4 เดือน และฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 1 ปี 4 เดือน เรียงกระทงลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 91 รวมลงโทษจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 6 ปี 8 เดือน ไม่ริบสมุดบัญชีรายชื่อ รายรับและรายจ่าย ใบรับฝากเงินของธนาคารต่าง ๆ ของกลางโดยให้คืนแก่เจ้าของ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1.