ได้ความว่า  ช.ผู้ตายเข้าไปในเรือนจำเลยแล้วกอดปล้ำจะทำชำเรา  จ. ๆ ใช้มีดแทงไปหลายที ช.จึงปล่อย  ระวางนั้นมีผู้ไปบอก ฝ.สามี  จ. จึงรีบมาพบ  ช.ห่างเรือนจำเลยราว ๓ เส้น  ฝ.ทรงเข้าแทง  ข.ทางเบื้องหลัง  ๒-๓ ที  ช.ตายในวันนั้นดังนี้
ศาลเดิมตัดสินว่า ฝ.จำเลยมีผิดตาม ม.๒๕๙ ให้จำคุกตลอดชีวิต  จ.จำเลยทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุไม่มีผิดตาม ม.๕๐  ให้ปล่อยไป
ศาลอุทธรณ์ตัดสินว่า  ฝ.จำเลยมีผิดตาม ม.๒๔๙  และ ๕๕  แต่ ฝ.เปนคนหากินตามปกติ  ไม่ปรากฏว่าเคยทำผิดมาแต่ก่อน  ควรได้รับความปราณีลดโทษตาม ม.๕๙ ด้วย  คงให้จำคุก  ฝ.๕ ปี  นอกจากนี้ยืนตาม
ศาลฎีกาตัดสินแก้ว่า  ช.ตายด้วยพิษบาดแผลที่ ฝ.ทำร้าย  และฝ.  ได้ทำไปในขณะที่บรรดาลโทษะเพระเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งนับว่ายังติดต่อกันอยู่  โดย ฝ.ทำร้าย  ช.ทันทีในขณะวิ่งตามมาพบดังนี้  ยังเรียกไม่ได้ว่าโทษะที่เกิดจากมูลเหตุเดิมได้สงบหรือขาดตอนไปแล้ว  ความผิดของ ฝ.จำเลยต้องด้วย ม.๒๔๙ - ๕๕  ส่วนที่ศาลอุทธรณ์ลดโทษให้จำเลยตาม ม.๕๙ นั้น  ยังไม่ชอบ  เพราะเหตุที่ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นลดโทษนั้น  จะถือว่าเปนคุณความดีของจำเลยตาม ม.๕๙  ยังไม่ได้  จึงให้จำคุก  ฝ.ไว้ ๗ ปี ๖ เดือน ตามกฎหมายที่กล่าวมาแล้ว