ได้ความว่าโจทก์เคยมีภรรยาและบุตร์แต่เลิกกันมานานแล้ว  โจทก์ให้เถ้าแก่ไปขอ  น.บุตร์ ข.จำเลยเปนภรรยา  ข.ยินยอมรับทองหมั้น ๘ บาทราคา ๒๐๐ บาท  สินสอด  ๔๐  บาท  เรือนหอ ๑ หลัง  มีเงื่อนไขแห่งสัญญาว่าถ้าโจทก์กลับคืนดีกับภรรยาเดิม  ยอมให้จำเลยริบทองหมั้นต่อมาโจทก์ได้เสียกับ  ค.จนเกิดบุตร์  แต่ไม่ให้เลี้ยงดูเปนภรรยา  บัดนี้จำเลยผิดสัญญาไม่ยอมแต่งงาน  โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยคืนทองหมั้นกับเรียกค่าเสียหาย
ศาลเดิมตัดสินว่า   ที่โจทก์ได้เสียกับ ค.นั้น  จะถือว่าโจทก์ผิดสัญญาไม่ได้  จึงให้จำเลยคืนทองหมั้นให้โจทก์  ส่วนค่าเสียหายให้ยกเสีย
ศาลอุทธรณ์ตัดสินกลับว่า โจทก์ผิดสัญญาเพราะการที่โจทก์ไปได้เสียกับ  ค.นั้น  ย่อมเปนที่เข้าใจกันว่า  เปนข้อรังเกียจและเปนการเสียหายแก่ฝ่ายหญิง  จำเลยมีสิทธิริบทองหมั้นได้ให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาเห็นว่า  ในสัญญาหาได้มีข้อห้ามไม่ให้โจทก์ได้เสียกับหญิงอื่นไม่  ทั้งโจทก์ก็ไม่ได้เลี้ยง  ค.เปนภรรยา  ยังไม่เปนการเสียหายแก่จำเลย  และจำเลยก็ทราบว่าโจทก์เปนคนมีบุตร์ภรรยามาแล้วไม่รังเกียจ   จึงตัดสินยืนตามศาลเดิม