ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนขายทรัพย์สินเพื่อหลีกเลี่ยงชำระหนี้ค่าทนายความเข้าข่ายความผิดฐานโกงเจ้าหนี้
โจทก์อุทธรณ์ว่า เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นยุติว่า จำเลยตกลงว่าจ้างโจทก์ให้เป็นทนายความฟ้องคดีขอแบ่งมรดก และคดีดังกล่าวถึงที่สุดโดยคำพิพากษาตามยอมให้จำเลยได้รับส่วนแบ่งเป็นที่ดินจำนวน 3 ไร่ และ 5 ไร่ ตามลำดับ หลังจากนั้นจำเลยยังไม่ชำระค่าว่าความให้โจทก์ โจทก์จึงได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่ง สำหรับที่ดินที่จำเลยมีสิทธิได้รับตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น จำเลยมอบหมายให้ว. ไปขายแก่บุคคลอื่นโดยจำเลยได้รับส่วนแบ่งเป็นเงินตามราคาที่ดินที่ขายได้ตามส่วนของตน ซึ่งมีการฝากธนาคารไว้แล้ว จำเลยถอนเงินดังกล่าวไป ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะมิให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของตนได้รับชำระหนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งเป็นเจตนาพิเศษอันเป็นองค์ประกอบความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 แล้ว อันเป็นอุทธรณ์โต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่วินิจฉัยปรับข้อเท็จจริงที่รับฟังได้แล้วนั้นว่าเข้าองค์ประกอบความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามฟ้องหรือไม่ จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อกฎหมาย
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงจึงไม่รับวินิจฉัยให้และพิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์ แต่ศาลฎีกาเห็นว่าอุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ ซึ่งหากศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์แล้ว คดีอาจมีผลต่อการฎีกาของโจทก์ตามกฎหมายได้ศาลฎีกาให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่