โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149, 157
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ลงโทษจำคุก 5 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 2 ปีนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้แย้งคงฟังได้ตามที่ศาลล่างวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครระดับ 2 ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่อนามัย สังกัดงานอนามัยสำนักงานเขตพระโขนง ระหว่างเกิดเหตุจำเลยมีหน้าที่ตรวจโรงงานรับผิดชอบในเขตพื้นที่แขวงพระโขนง แขวงคลองตัน ผู้เสียหายเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดอมรศุภกิจเอ็นจิเนียริ่ง ซึ่งเป็นโรงงานรับจ้างกลึงโลหะต่าง ๆ อันเป็นการประกอบกิจการซึ่งเป็นที่รังเกียจหรืออาจเป็นอันตรายแก่สุขภาพตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครตั้งอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของจำเลย โดยยังไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการดังกล่าวจากเขตพระโขนง ผู้มีอำนาจในการออกใบอนุญาตคือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แต่ในทางปฏิบัติผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบอำนาจให้แก่ผู้อำนวยการเขตผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตปฏิบัติราชการแทน เมื่อประมาณกลางเดือนมกราคม2530 จำเลยไปตรวจโรงงานของผู้เสียหายพบว่ามีข้อบกพร่องในการขอออกใบอนุญาต ต่อมาวันที่ 26 มกราคม 2530 จำเลยรับเงินจากผู้เสียหาย 2,000 บาท เป็นค่าธรรมเนียมในการออกใบอนุญาต 1,000 บาทส่วนที่เกินเป็นเงินที่จำเลยเรียกร้องเอาเป็นค่าตอบแทนในการทำเรื่องเพื่อออกใบอนุญาต มีปัญหาในชั้นฎีกาว่าจำเลยกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หรือไม่ ได้ความจากนายกระจ่างธัญญพืช ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตพระโขนง พยานโจทก์ว่าโดยหน้าที่แล้วจำเลยมีหน้าที่ในการเสนอต่อผู้บังคับบัญชาว่าจะออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอใบอนุญาตหรือไม่เพราะจำเลยเป็นผู้ไปตรวจซึ่งสอดคล้องกับคำเบิกความของว่าที่ร้อยตรีบุญชอบ สุคนธ์สิงห์หัวหน้างานอนามัยซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาจำเลยว่า เจ้าพนักงานที่ออกตรวจพื้นที่มีอำนาจที่จะเสนอความเห็นว่า ให้ออกหรือไม่ให้ออกใบอนุญาตก็ได้ จึงถือได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงในการพิจารณาว่าจะออกใบอนุญาตให้แก่บุคคลใดในการประกอบกิจการค้าซึ่งเป็นที่รังเกียจหรืออาจเป็นอันตรายแก่สุขภาพตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร การที่จำเลยเรียกร้องเงินจากผู้เสียหายเป็นการตอบแทนในการดำเนินการออกใบอนุญาตดังกล่าวจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 3 ปีนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์