โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสบคบกับพวกอีก ๔ คน ปล้นทรัพย์ราคารวม ๒,๓๖๕ บาท ของนายเห็ว กับนางสาวชูจิตรไป ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา ม. ๒๔๐, ๘๓ และให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์
จำเลยปฏิเสธ ต่อสู้ว่า จำเลยได้ไปสู่ขอนางสาวชูจิตรบุตรนางเห็วไว้แล้วก่อนวันเกิดเหตุ ในระหว่างที่เขาขอผลัดตรึกตรองมีคนมาบอกจำเลยว่า นางสาวชูจิตรต้องการพบจำเลย จำเลยจึงได้ไปยังเรืองนางเห็ว ไม่ได้ขู่เข็ญผู้ใดเพื่อจะเอาทรัพย์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ ให้จำคุกจำเลย ๑๐ ปีและให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีฟังไม่ได้ว่าเป็นเรื่องปล้นทรัพย์ แต่เป็นเรื่องบุกรุก เพื่อจะเอาตัวนางสาวชูจิตร บุตรนางเห็วไป คดีจึงลงโทษจำเลยไม่ได้ตามฟ้องของโจทก์ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๑๙๒
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์