ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพรางต้องมีเจตนาตั้งแต่แรกเริ่มทำสัญญา หากทำสัญญาภายหลังจึงไม่ถือเป็นนิติกรรมอำพราง
การทำนิติกรรมอำพราง ขณะทำนิติกรรมคู่กรณีจะต้องมีเจตนาทำนิติกรรมอันหนึ่งขึ้นมาอำพรางนิติกรรมอีกอันหนึ่ง แต่ขณะจำเลยกู้ยืมเงินจาก จ.สามีโจทก์ โจทก์จำเลยยังไม่มีเจตนาที่จะทำสัญญาโอนสิทธิการเช่าตึกแถวพิพาทและสัญญาให้จำเลยอาศัยอยู่ในตึกแถวพิพาทมาปิดบังอำพรางนิติกรรมที่จำเลยกู้ยืมเงินสามีโจทก์ สัญญาโอนสิทธิการเช่าตึกแถวพิพาทและสัญญาให้อาศัยได้กระทำขึ้นภายหลัง ทั้งมิได้ทำขึ้นโดยบุคคลซึ่งเป็นคู่กรณีเดียวกัน จึงไม่อยู่ในความหมายของนิติกรรมอำพราง