โจทก์ฟ้องว่าการที่จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ มีคำสั่งให้โจทก์จ่ายเงินค่าทดแทนแก่นายคำรณ ยศหนักบิดาของนายอนุชา ยศหนัก ลูกจ้างโจทก์ที่ถึงแก่ความตาย โดยอ้างว่าประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้โจทก์ เป็นการไม่ชอบ ขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยและคำสั่งของจำเลยเสีย
จำเลยทั้งสองให้การว่า นายอนุชา ยศหนักเดินทางไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ตามคำสั่งของนายพิสัย พจนสุนทร ผู้บังคับบัญชาอันเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานให้โจทก์ เมื่อถูกรถอื่นชนถึงแก่ความตายในระหว่างเดินทางกลับ ถือได้ว่าเป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้าง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงาน วินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางฟังมาปรากฏว่า นายพิสัยผู้บังคับบัญชาของนายอนุชาสั่งให้นายอนุชานำหลักฐานการอนุญาตให้ใช้สถานที่ตั้งไปรษณีย์รับอนุญาตเอกชนซึ่งนายศักดาบิดาของนายวัชรินทร์ผู้สมัครรับจัดตั้งไปรษณีย์อนุญาตเอกชนในเขตตำบลวังม้า อำเภอลาดยาวอนุญาตให้ใช้สถานที่โดยไม่คิดค่าเช่าไปให้นายศักดาและนางฟ้อยภริยาลงชื่อใหม่ที่บ้านนายศักดา นายอนุชาจึงได้เดินทางไปตามคำสั่งของนายพิสัย ซึ่งถือได้ว่านายอนุชาเดินทางไปปฏิบัติงานในทางการที่จ้างของโจทก์ และเนื่องจากนายอนุชาทำงานประจำอยู่ที่ไปรษณีย์โทรเลขลาดยาว เมื่อออกไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ทำงานเสร็จแล้วก็ย่อมจะต้องเดินทางกลับจากสถานที่ดังกล่าว ระหว่างการเดินทางกลับก็ยังต้องถือว่าเป็นช่วงเวลาปฏิบัติในทางการที่จ้างให้นายจ้างกรณีต่างกับการที่ลูกจ้างปฏิบัติงานในหน้าที่ ณ สถานที่ทำงานปกติเสร็จแล้วเดินทางกลับบ้าน กรณีเช่นนี้ไม่อาจถือว่าช่วงเวลาที่เดินทางกลับบ้านเป็นช่วงเวลาที่ปฏิบัติงานในทางการที่จ้างให้นายจ้าง ดังนั้นการที่นายอนุชาประสบอุบัติเหตุจนถึงแก่ความตายระหว่างเดินทางกลับจากบ้านนายศักดา จึงถือได้ว่าถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงานให้แก่โจทก์ผู้เป็นายจ้าง การที่นายอนุชาไม่ได้เดินทางกลับทันทีที่ปฏิบัติหน้าที่เสร็จก็เนื่องจากฝนตกเป็นอุปสรรคในการเดินทางเพราะนายอนุชาขับขี่รถจักรยานยนต์ไป และการที่ระหว่างรอให้ฝนหยุด นายอนุชาได้รับประทานอาหารที่บ้านนายศักดาด้วยก็หามีผลทำให้การปฏิบัติงานในหน้าที่ของโจทก์สิ้นสุดไม่
พิพากษายืน