ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดนายจ้างต่อลูกจ้าง และการกำหนดค่าเสียหายจากละเมิดต่อร่างกาย ศาลไม่เห็นควรอนุญาตให้สืบพยานเพิ่มเติม
รถคันเกิดเหตุเป็นรถของผู้มีชื่อเอามาวิ่งร่วมวิ่งรับคนโดยสารในเส้นทางสัมปทานของจำเลยที่ 2 โดยแบ่งส่วนได้ให้จำเลยที่ 2 แต่เจ้าของรถต้องโอนรถให้มีชื่อบริษัทจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของในทะเบียนรถ คนขับ คนเก็บเงินต้องแต่งเครื่องแบบของบริษัท และรถก็ต้องทาสีของบริษัทด้วย ถือว่าจำเลยที่ 2 ได้มีและใช้รถคันเกิดเหตุในกิจการของจำเลยที่ 2 แล้ว ต้องถือว่าจำเลยที่ 2เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 ผู้ทำละเมิด (อ้างฎีกาที่1576/2506)
โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนว่า เงินค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์เรียกร้องโจทก์ได้เรียกร้องในฐานะที่จำเลยละเมิดต่อร่างกายโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 446 แม้โจทก์จะไม่ได้ บรรยายรายละเอียดอันจะถือเป็นเกณฑ์คำนวณค่าเสียหายก็ดี หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ ศาลมีอำนาจที่จะกะค่าสินไหมทดแทนให้ตามสมควรแก่รูปคดีได้
จำเลยขอระบุพยานเพิ่มเติมเมื่อสืบพยานโจทก์ฝ่ายที่ต้องนำสืบเสร็จแล้ว โดยอ้างว่าเป็นพยานสำคัญที่จำเลยจำเป็นจะต้องนำมาสืบเพื่อประโยชน์ในคดีของจำเลย หากศาลเห็นว่าแม้จะอนุญาตให้จำเลยสืบพยานตามที่ระบุไว้นั้น ก็ไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลงไป ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสืบพยานเช่นว่านั้น จะไม่อนุญาตให้จำเลยอ้างพยานเพิ่มเติมก็ได้